ทำความรู้จัก Robert F. Kennedy Jr. คือใคร ทำไมถึงส่งผลให้หุ้น Healthcare ร่วงยกแผง

Published
Share this article:
banner image

ทำความรู้จัก Robert F. Kennedy Jr. คือใคร ทำไมถึงส่งผลให้หุ้น Healthcare ร่วงยกแผง

ตลาดหุ้นกลุ่ม Healthcare ต้องเผชิญความผันผวนทันทีเมื่อชื่อของ Robert F. Kennedy Jr. ปรากฏเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ในรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มวัคซีนและยา เช่น Eli Lilly (LLY) และ Novo Nordisk (NVO) ที่ประสบแรงขายทันทีที่ข่าวนี้เผยแพร่ แต่คำถามคือ Robert F. Kennedy Jr. คือใคร ทำไมเขาถึงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่ม Healthcare มากถึงขนาดนี้

Robert F. Kennedy Jr. คือใคร

Robert F. Kennedy Jr. (โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์) เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านการเมือง การทำงานด้านสิ่งแวดล้อม และการเคลื่อนไหวทางสังคมในสหรัฐอเมริกา ฟังจากชื่อแล้วหลายคนอาจจะคุ้นหูกับนามสกุล Kennedy ที่เป็นนามสกุลของ John F. Kennedy อดีตประธานาธิบดีคนดังของสหรัฐ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว Kennedy ตระกูลการเมืองสำคัญของสหรัฐอเมริกา

ประวัติและครอบครัว

  • บิดา: Robert F. Kennedy ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรมของสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนถูกลอบสังหารในปี 1968
  • ลุง: John F. Kennedy อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ถูกลอบสังหารในปี 1963
  • การศึกษา: สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมาย จาก Pace University
  • ปัจจุบันเป็นทนายความ

งานด้านสิ่งแวดล้อม

Robert F. Kennedy Jr. มีชื่อเสียงในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม

  • เขาทำงานร่วมกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
  • เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานของ Children’s Health Defense ซึ่งมุ่งเน้นการปกป้องสุขภาพเด็กและผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม

งานด้านการเมือง

  • ปี 2023: เขาประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 ในฐานะผู้สมัครอิสระ
  • ปี 2024: ยุติการรณรงค์หาเสียงและหันมาสนับสนุน Donald Trump ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน และเพิ่งได้รับการเสนอชื่อเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) คนต่อไปในรัฐบาลของทรัมป์

ทำไมการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของ Robert F. Kennedy Jr. ถึงส่งผลกระทบต่อตลาด Healthcare

Robert F. Kennedy Jr. มีจุดยืนที่ขัดแย้งในหลายประเด็น โดยหนึ่งในนโยบายสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาโดยตรงคือ การลดราคายาผ่านบทบัญญัติจาก Inflation Reduction Act (IRA) ที่รัฐบาลได้รับสิทธิ์เจรจาต่อรองราคายาโดยตรง ซึ่งอาจนำไปสู่ราคายาที่ต่ำลงสำหรับบริษัทยา Robert มีแนวโน้มสนับสนุนการเจรจาในเชิงรุก เพิ่มแรงกดดันต่อรายได้ของบริษัทผู้ผลิตยา

นอกจากนี้ Robert ยังเคยวิพากษ์วิจารณ์ประสิทธิภาพของวัคซีน แม้ว่าจะมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันถึงความปลอดภัยและความสามารถในการป้องกันโรคร้ายแรง

หุ้นที่คาดว่าจะเสียประโยชน์จาก Robert F. Kennedy Jr.

คาดว่า หุ้นยาและวัคซีน น่าจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของ Robert โดยมีหุ้น 2 ตัวที่น่าจะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษได้แก่

1. Eli Lilly (LLY)

  • Eli Lilly ซึ่งมีรายได้หลักจากยาที่มีราคาสูง ต้องเผชิญกับความกดดันในการปรับลดราคายา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และผลกำไร
  • Eli Lilly เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพและการรักษาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือยาฉีดบางประเภท มุมมองที่ไม่เชื่อในประสิทธิภาพของวัคซีน อาจส่งผลให้เกิดนโยบายที่ไม่สนับสนุนการใช้วัคซีนในวงกว้าง และลดกำลังการผลิตของวัคซีนลง
  • Robert ยังมีแนวโน้มสนับสนุนนโยบายที่มุ่งลดต้นทุนการดูแลสุขภาพสำหรับประชาชน เช่น ส่งเสริมให้ประชาชนรักษาสุขภาพ ควบคู่กับการผลักดันให้บริษัทผลิตยาขายยาในราคาที่เหมาะสม เป็นต้น Eli Lilly ซึ่งผลิตยารักษาโรคเรื้อรัง เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน (Insulin) อาจต้องเผชิญกับแรงกดดันให้ลดราคายาเหล่านี้

2. Novo Nordisk (NVO)

  • Novo Nordisk ซึ่งพึ่งพาผลิตภัณฑ์เช่น Ozempic (ยาลดน้ำหนัก) และ Wegovy (ยาลดน้ำหนัก) ซึ่งมีราคาสูง อาจต้องเผชิญแรงกดดันในการปรับลดราคาสินค้าเหล่านี้
  • การที่ Robert ไม่เชื่อในประสิทธิภาพของวัคซีนในบางกรณีอาจส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของสาธารณะเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Novo Nordisk ในบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการฉีดหรือวัคซีน

นักลงทุนควรเตรียมรับมือกับการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งของ Robert F. Kennedy Jr. อย่างไร

1. ติดตามนโยบายเกี่ยวกับการลดราคายา

  • การลดราคายาผ่านกฎหมาย Inflation Reduction Act (IRA) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดยาและบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น Eli Lilly (LLY) และ Novo Nordisk (NVO)
  • นักลงทุนควรติดตามแนวโน้มของการเจรจาต่อรองราคายาจากรัฐบาล ซึ่งอาจทำให้บริษัทยาต้องปรับตัวเพื่อลดราคาผลิตภัณฑ์ในตลาด

2. มุมมองต่อนโยบายเกี่ยวกับวัคซีน

  • Robert มีมุมมองที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์วัคซีน เช่น Pfizer หรือ Moderna
  • นักลงทุนที่ลงทุนในบริษัทเหล่านี้อาจต้องเฝ้าระวังข่าวสารและท่าทีของ RFK Jr. ในการกำหนดนโยบายด้านวัคซีน

3. ความไม่แน่นอนในนโยบายด้านสาธารณสุข

  • การเปลี่ยนแปลงในกระทรวงสาธารณสุขอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายด้านการควบคุมยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงการลงทุนในโครงการวิจัยและพัฒนาของบริษัทเภสัชกรรม

4. ติดตามการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการปกป้องสุขภาพเด็ก

  • Robert เป็นผู้ก่อตั้ง Children’s Health Defense และมุ่งเน้นในการปกป้องสุขภาพเด็ก ซึ่งอาจทำให้เขาผลักดันนโยบายใหม่ๆ ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอาง

ลงทุน หุ้นต่างประเทศ , หุ้นไทย, กองทุนรวม และสินทรัพย์อื่นๆ อีกมากมายได้แล้ววันนี้ที่ Pi Financial รวมทุกสินทรัพย์การลงทุนไว้ในแอปเดียว ให้การลงทุน ง่ายกว่าที่เคย

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลตอบแทนในอดีตของกองทุนรวมมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited