ทำความรู้จักกองทุน ThaiESG กองทุนลดหย่อนภาษีตัวใหม่ ลงทุนกองทุน ThaiESG เพื่อลดภาษีอย่างเดียวคุ้มหรือไม่?

Published
Share this article:
banner image

หากตลาดหุ้นไทยไม่สดใส จะลงทุนกองทุน ThaiESG เพื่อลดภาษีอย่างเดียวคุ้มหรือไม่?

แม้ช่วงนี้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็อาจจะยังไม่สดใสนัก จึงทำให้เกิดคำถามว่าการลงทุนในกองทุน ThaiESG กองทุนลดหย่อนภาษีตัวใหม่ที่รัฐบาลตั้งใจส่งออกมาเพื่อดึงเงินเข้าตลาดหุ้นไทยนั้น จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้หรือไม่ หรือถ้าจะมองการลงทุนในกองทุน ThaiESG เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดหย่อนภาษีอย่างเดียว จะคุ้มจริงหรือเปล่า

กองทุน ThaiESG คืออะไร?

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund (ThaiESG) เป็นกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่ที่ออกมาเมื่อปีพ.ศ. 2566 โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทย ที่ให้มุ่งเน้นการดำเนินงานตามหลักความยั่งยืน หรือ ESG เท่านั้น โดยประกอบไปด้วย 3 มิติ

  1. มิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) - มีการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น มีนโยบายเรื่องการลดการใช้พลังงาน, ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions), การลดมลพิษ เป็นต้น
  2. มิติด้านสังคม (Social) – มีการดำเนินงานที่ใส่ใจสวัสดิภาพของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอย่างรอบด้าน ทั้งพนักงาน, ชุมชน, ลูกค้า
  3. มิติด้านบรรษัทภิบาล (Governance) – มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีนโยบาย เช่น การต่อต้านการทุจริต เป็นต้น

กองทุน ThaiESG ลงทุนในอะไรบ้าง

กองทุนThaiESG เน้นการลงทุนหุ้นและตราสารหนี้ไทย ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานด้วยความยั่งยืนตามหลัก ESG ซึ่งไม่ใช่บริษัทเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องได้รับการจัดอันดับใน SET ESG Rating และตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน (ESG Bond) ด้วย

ในปี 2567 มีการปรับเกณฑ์ใหม่ โดยเพิ่มหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล หรือระดับการประเมิน CG Rating ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD) ทำให้จำนวนหุ้นใน Universe เพิ่มมากขึ้นจากปี 2566

กองทุน ThaiESG มีเกณฑ์ลดหย่อนภาษีอย่างไร

  • สามารถใช้ ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% ของรายได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี หรือไม่เกิน 300,000 บาท ปรับเพิ่มจากปี 2566 ที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ระยะเวลาลงทุนสั้น ถือครองเพียง 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) ปรับลดจากปี 2566 ที่ต้องถือครองนานถึง 8 ปี (นับแบบวันชนวัน)
  • ยังคง คิดวงเงินแยกจากกองทุน SSF/RMF และผลิตภัณฑ์ลดหย่อนภาษีประเภทอื่น
  • ไมต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี

กองทุน ThaiESG เหมาะกับใคร

  • ต้องการลดหย่อนภาษี และลงทุนในระยะสั้นที่สุด เทียบกับกองทุนลดหย่อนภาษีทุกประเภท ถือครองเพียง 5 ปี
  • อยากลงทุนในประเทศไทย และเชื่อมั่นใจบริษัทที่มีนโยบายการดำเนินงานตามหลักความยั่งยืน หรือ ESG
  • ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทอื่นจนครบแล้ว และต้องการวงเงินในการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีก 300,000 บาท
  • มีรายได้พึงประเมินทั้งปีสูง ฐานภาษีสูง เพราะวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีก 300,000 บาท มีส่วนช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่า ผู้ที่มีรายได้พึงประเมินต่ำและฐานภาษีที่ต่ำกว่า

ลงทุนกองทุน ThaiESG เหมือนได้กำไรไปแล้วสูงสุดถึง 100,500 บาท

เนื่องจากกองทุน ThaiESG สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท หากฐานภาษีอยู่ในอัตราสูงสุดที่ 35% ต่อปี เท่ากับว่าการซื้อกองทุน ThaiESG เต็มวงเงินจะช่วยประหยัดภาษีได้มากถึง 100,500 บาทเลยทีเดียว ฐานภาษีที่ต่างกันมีผลต่อจำนวนเงินที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้ตามตารางด้านล่าง

อีกนัยหนึ่ง แปลว่าหากในอนาคตกองทุน ThaiESG ที่ซื้อไปมีผลการดำเนินงานขาดทุน ผู้ที่มีฐานภาษีสูงกว่า มีโอกาสทนขาดทุนได้มากกว่า ถ้าหักลบจำนวนเงินที่ประหยัดไปแล้วจากการลดหย่อนภาษีออกจากต้นทุนจริง แต่ถ้าหากมีกำไร ผู้ที่มีฐานภาษีสูงกว่า ก็เหมือนมีอัตราส่วนกำไรสูงกว่าผู้ที่มีฐานภาษีต่ำกว่า ในกรณีที่ NAV ของกองทุน ThaiESG ที่ซื้อไว้ราคาขึ้นเท่ากัน

สรุปซื้อกองทุน ThaiESG เพื่อลดหย่อนภาษีอย่างเดียวคุ้มหรือไม่

สำหรับผู้ที่ฐานภาษีสูง และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงกว่า การซื้อกองทุน ThaiESG เพื่อหวังผลในการลดหย่อนภาษีอย่างเดียว อาจถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถลดหย่อนภาษีได้มากกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่มีฐานภาษีต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่สามารถขาดทุนจากกองทุน ThaiESG ได้เป็นจำนวนเงินค่อนข้างมาก เพราะต้นทุนเสมือนจากการซื้อกองทุน ThaiESG หลังหักลบสิทธิประโยชน์ทางภาษีออกไปแล้ว ต่ำกว่าผู้ที่ฐานภาษีน้อยกว่าค่อนข้างมาก

สำหรับผู้ที่ฐานภาษียังไม่สูงนัก หากคาดหวังจะได้กำไรจากการซื้อกองทุน อาจจะลองพิจารณาทางเลือกในการลงทุนกองทุน SSF/RMF ที่มีตัวเลือกในการลงทุนมากกว่า ไม่จำกัดเฉพาะแค่หุ้นและพันธบัตรไทยเท่านั้น ประกอบด้วย

ไม่ว่าจะกองทุน SSF/RMF/ThaiESG กองไหนในลิสต์ก็สามารถซื้อได้ที่ Pi Financial App ทั้งหมด เพราะที่ Pi มีกองทุนมากกว่า 1,800 กองทุนจาก 18 บลจ. ชั้นนำให้คุณได้เลือกลงทุนได้ในที่เดียว เริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีและเริ่มต้นลงทุนกองทุน RMF เลยวันนี้ที่ Pi Financial App

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited