ทำความรู้จัก Emerging Market กับ Frontier Market แตกต่างกันอย่างไร? แล้วตลาดไหนน่าลงทุน

Published
Share this article:
banner image

ทำความรู้จัก Emerging Market กับ Frontier Market แตกต่างกันอย่างไร? แล้วตลาดไหนน่าลงทุน

นักลงทุนหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Emerging Market (ตลาดเกิดใหม่) อยู่บ่อยๆ ตลาดเกิดใหม่คือโอกาสในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจาก Emerging Market แล้วยังมี Frontier Market (ตลาดหุ้นชายขอบ) ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แม้ตลาดทั้งสองประเภทจะเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้จะอธิบายว่าทั้งสองตลาดนี้คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร

Emerging Market (ตลาดเกิดใหม่) คืออะไร?

Emerging Market หมายถึง ประเทศหรือเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจที่เน้นภาคการเกษตรหรือภาคการผลิตแบบดั้งเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่มีความเป็น อุตสาหกรรมและบริการมากขึ้น ประเทศเหล่านี้มักจะมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า แต่ยังไม่ถึงขั้นของประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market)

คุณสมบัติของ Emerging Market

  • มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว
  • ยังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
  • ยังคงมีเสี่ยงต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง
  • ตลาดการเงินยังพัฒนาไม่เต็มที่ แต่มีสภาพคล่องสูงขึ้นกว่าตลาดหุ้นชายขอบ

ตัวอย่างประเทศในกลุ่ม Emerging Market ได้แก่ จีน อินเดีย เม็กซิโก บราซิล และอินโดนีเซีย

Frontier Market (ตลาดหุ้นชายขอบ) คืออะไร?

Frontier Market หมายถึง ประเทศหรือเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาที่น้อยกว่า Emerging Market ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา เศรษฐกิจในกลุ่มนี้มักจะมีขนาดเล็กและมีความเสี่ยงสูงกว่าจากหลายปัจจัย เช่น การเมืองที่ไม่เสถียร โครงสร้างพื้นฐานที่ขาดแคลนและต้องการการพัฒนาอีกมาก และตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องต่ำ

คุณสมบัติของ Frontier Market

  • ขนาดของเศรษฐกิจและตลาดการเงินยังมีขนาดเล็ก
  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยังคงจำกัด
  • ความเสี่ยงสูงกว่าตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากการขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง
  • สภาพคล่องต่ำกว่าตลาดเกิดใหม่

ตัวอย่างประเทศในกลุ่ม Frontier Market ได้แก่ บังกลาเทศ เคนยา เวียดนาม และศรีลังกา

ความแตกต่างระหว่าง Emerging Market และ Frontier Market

  1. ขนาดของเศรษฐกิจและตลาดการเงิน: Emerging Market มักมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า Frontier Market และมีตลาดการเงินที่พัฒนาไปไกลกว่า มีสภาพคล่องที่สูงกว่าทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ Frontier Market มักมีตลาดที่เล็กกว่าและสภาพคล่องต่ำ
  2. ระดับการพัฒนา: Emerging Market มักจะอยู่ในช่วงของการพัฒนาที่สูงกว่า Frontier Market มีโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า ขณะที่ Frontier Market ยังคงพัฒนาอยู่ในขั้นต้น
  3. ความเสี่ยง: การลงทุนใน Frontier Market มีความเสี่ยงสูงกว่า Emerging Market เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง ความไม่เสถียรทางเศรษฐกิจ และการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการพัฒนา ในขณะที่ Emerging Market แม้จะยังมีความเสี่ยงสูง แต่ความเสถียรทางการเมืองและเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าตลาดชายแดน
  4. โอกาสในการเติบโต: ถึงแม้ทั้งสองตลาดจะมีศักยภาพในการเติบโต แต่ Frontier Market มักจะมีโอกาสในการเติบโตที่สูงกว่า เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และมีศักยภาพในการเติบโตที่ยังไม่ถูกนำมาใช้เต็มที่ ขณะที่ Emerging Market แม้จะยังมีโอกาสเติบโต แต่โอกาสดังกล่าวมักจะน้อยกว่า Frontier Market

ลงทุนในตลาด Emerging Market หรือ Frontier Market ดี?

การเลือกลงทุนในตลาด Emerging Market (ตลาดเกิดใหม่) หรือ Frontier Market (ตลาดหุ้นชายขอบ) ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ รวมถึงเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน

  • หากรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มาก พร้อมโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า การลงทุนในตลาด Frontier Market เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่าง เวียดนาม โดยมีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์หลายสำนักว่า เวียดนามจะได้รับการเปลี่ยนสถานะจาก Frontier Market เป็น Emerging Market ภายในปี 2025 ทว่าการเลือกลงทุนในตลาด Frontier Market ต้องมีการเฝ้าติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง

  • หากรับความเสี่ยงได้มากกว่าการลงทุนในตลาดพัฒนาแล้ว แต่ยังน้อยกว่าตลาด Frontier Market และคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดพัฒนาแล้ว การเลือกลงทุนใน Emerging Market เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ตลาดการลงทุนที่น่าสนใจคือ ตลาดจีน และอินเดีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีเสถียรภาพค่อนข้างสูง และยังมีโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกมาก โดยจากบริษัทเทคโนโลยี ค้าปลีก และ E-commerce ที่เริ่มขยายธุรกิจไปทั่วโลก

ควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนในตลาด Emerging Market กับ Frontier Market อย่างไร

แม้ว่าตลาด Emerging Market และ Frontier Market จะมีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน Pi Financial แนะนำให้แบ่งสัดส่วนการลงทุนตามหลัก Asset Allocation มาลงทุนในตลาด Emerging Market และ/หรือ Frontier Market ประมาณ 5-10% ของพอร์ตลงทุน เพื่อ Balance พอร์ตลงทุน สร้างผลตอบแทนที่มั่นคง ในทุกสภาวะตลาด

กองทุนตลาด Emerging Market แนะนำจาก Pi Financial

1. KT-INDIA

เน้นการลงทุนในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการขยายตัวของประชากรและเศรษฐกิจที่รวดเร็ว พร้อมรับประโยชน์จากนโยบายการปฏิรูปของรัฐบาล

  • บลจ. กรุงไทย (KTAM)
  • ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): Invesco India Equity Fund
  • นโยบายค่าเงิน: ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedge)
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 0.8%
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Initial Minimum Buy): 1,000 บาท
  • หนังสือชี้ชวน

2. PRINCIPAL VNEQ

ลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • บลจ. พรินซิเพิล (Principal Asset Management)
  • ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): -
  • นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (Hedge)
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 1.605%
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Initial Minimum Buy): 1,000 บาท
  • หนังสือชี้ชวน

ทั้ง Emerging Market และ Frontier Market ต่างเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง แต่มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน นักลงทุนน่าจะเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายการลงทุนของตนเอง สำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงสูงและมองหาโอกาสในระยะยาว การลงทุนใน Frontier Market อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ในขณะที่ Emerging Market น่าจะเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความสมดุลระหว่างการเติบโตและความเสี่ยง

โปรโมชันพิเศษ สำหรับกองทุน KT-INDIA และ PRINCIPAL VNEQ

ซื้อกองทุน SCBAOA ที่ Pi Financial ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับ iPhone 16 Pro Max 256 GB มูลค่า 56,900 บาท

ลงทุนสะสมได้ตั้งแต่ 16 ก.ย. - 15 ธ.ค. 2567

ศึกษารายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติม

ลงทุนกองทุน KT-INDIA, PRINCIPAL VNEQ และ กองทุนรวมจาก 18 บลจ. ชั้นนำได้แล้ววันนี้ที่ Pi Financial

คำเตือน

  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited