Pi แนะนำ 2 หุ้นส่งออกไทยที่ได้ประโยชน์จากนโยบายทรัมป์: TU และ ITC

Published
Share this article:
banner image

Pi แนะนำ 2 หุ้นส่งออกไทย TU และ ITC หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์

การกลับมาของนโยบายสนับสนุนการค้าในสหรัฐ หรือที่เรียกว่า American First ของประธานาธิบดีคนถัดไป โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) มีโอกาสช่วยกระตุ้นการส่งออกของธุรกิจไทยที่มุ่งเน้นสินค้าสู่ตลาดโลก แม้ว่าจะมีนโยบายกีดกันทางการค้า ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่คาดว่าสินค้าอาหารแปรรูปและอาหารสัตว์ที่มีความต้องการสูง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาว น่าจะยังเติบโตได้ หุ้นส่งออกที่ได้รับผลดีจากนโยบายนี้คือ TU และ ITC ทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตและกำไรที่น่าจับตามองในปี 2024

TU (Thai Union Group): โอกาสการเติบโตจากทูน่ากระป๋องและอาหารสัตว์

TU ทำธุรกิจอะไร

TU (Thai Union Group) เป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปที่มีชื่อเสียงระดับโลก สินค้าหลักคือทูน่ากระป๋องและอาหารทะเลหลากหลายประเภท รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง TU ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังหลายประเทศ โดยเน้นการตลาดในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยมีแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยและรู้จักกันดี คือ ซีเล็ค ทูน่า (Select Tuna), ฟิชโช (Fisho) เป็นต้น

ผลประกอบการ 3Q24

TU หรือ Thai Union Group มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท (+16%YoY, +15%QoQ) การเติบโตนี้มาจากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (Ambient Seafood) ที่มีการสั่งซื้อกลับมาจากตลาดตะวันออกกลาง รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Care) ที่ยังมีการเติบโตที่ดี ส่วนธุรกิจอาหารแช่แข็ง (Frozen Seafood) ยังคงลดลง

แนวโน้ม 4Q24 และทั้งปี

ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2024 TU คาดว่าจะยังสามารถรักษาระดับรายได้ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน แม้จะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้ปรับเป้าหมายการเติบโตทั้งปีเป็น 3-4% โดยกำไรทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 5,208 ล้านบาท

คำแนะนำการลงทุน

TU ยังคงมีความน่าสนใจในระยะยาว เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาหุ้นเติบโต มูลค่าพื้นฐานที่แนะนำอยู่ที่ 17.6 บาท

ITC (i-Tail Corporation): เติบโตจากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้น

ITC ทำธุรกิจอะไร

ITC (i-Tail Corporation) เป็นบริษัทในเครือของ Thai Union Group ที่มุ่งเน้นธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอาหารแมวและสุนัขในกลุ่มพรีเมียม ITC มีตลาดหลักในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ตอบสนองความต้องการที่เติบโตขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยมีแบรนด์อาหารสัตว์ที่คนเลี้ยงสัตว์ต่างรู้จักกันดี เช่น Bellotta, Marvo, ChangeTer, Calico Bay และ Paramount เป็นต้น

ผลประกอบการ 3Q24

ITC รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2024 อยู่ที่ 976 ล้านบาท (+52%YoY, -3%QoQ) อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงมีความต้องการสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าพรีเมียม ซึ่งทางบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มนี้เพื่อรักษากำไรขั้นต้นที่สูง

แนวโน้ม 4Q24 และทั้งปี

แม้ว่ารายได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 อาจไม่เติบโตเท่าช่วง 9 เดือนแรกของปี ITC ยังคาดว่าจะเติบโตที่ 15-17%YoY จากการปรับเป้าหมายใหม่ ส่งผลให้กำไรปี 2024 คาดว่าจะอยู่ที่ 3,778 ล้านบาท (+65%YoY) ซึ่งสะท้อนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

คำแนะนำการลงทุน

ITC ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ มูลค่าพื้นฐานที่แนะนำอยู่ที่ 31.5 บาท

ทั้ง TU และ ITC เป็นหุ้นส่งออกไทยที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก นโยบายของทรัมป์ที่มุ่งกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศอาจช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง Pi แนะนำ “ซื้อ” สำหรับทั้งสองหุ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตระยะยาว

เริ่มต้นลงทุนหุ้น TU, ITC และ หุ้นไทย ตัวอื่นๆ ได้ที่แอป Pi Financial ให้ทุกเรื่องการลงทุน ง่ายกว่าที่เคย ที่ Pi Financial เลย

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited