อย่าลืมแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR วิธีลดภาระภาษีรายเดือน สิ้นสงสัยเงินเดือนถูกหักไปไหนเยอะแยะ

Published
17 September 2024
Share this article:
banner image

อย่าลืมแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR วิธีลดภาระภาษีรายเดือน สิ้นสงสัยเงินเดือนถูกหักไปไหนเยอะแยะ

ทราบหรือไม่ว่าการแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR สามารถช่วยลดภาษีที่ถูกหักจากเงินเดือนของคุณได้? หลายคนมักมองข้ามขั้นตอนสำคัญนี้ ทำให้ต้องจ่ายภาษีมากเกินความจำเป็นในแต่ละเดือน และอาจจะต้องวุ่นวายในการทำเรื่องแจ้งสิทธิขอคืนภาษี

ทำไมต้องแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษี?

  1. ลดภาระภาษีรายเดือน: เมื่อ HR ทราบยอดลดหย่อนของคุณ จะสามารถคำนวณภาษีได้แม่นยำขึ้น ทำให้ HR จะหักภาษีรายเดือนนำส่งสรรพากรน้อยลง
  2. เพิ่มเงินในกระเป๋า: คุณจะมีเงินเดือนสุทธิมากขึ้นในแต่ละเดือน เพิ่มโอกาสในการนำเงินส่วนที่เพิ่มมาไปบริหารจัดการต่อให้ได้ประโยชน์มากขึ้น เช่น ลงทุน เป็นต้น ทำให้ไม่มีค่าเสียโอกาสของการจ่ายภาษีไปตั้งแต่แรก
  3. ลดความยุ่งยากตอนสิ้นปี: ไม่ต้องรอขอคืนภาษีจำนวนมากในภายหลัง

วิธีแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR

  1. รวบรวมข้อมูลค่าลดหย่อนทั้งหมดของคุณ
  2. กรอกแบบฟอร์มแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีของบริษัท ตามหมวดต่างๆ ที่บริษัทอาจไม่มีข้อมูล เช่น
  3. แนบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ส่งให้ HR ภายในกำหนดเวลา เช่น บริษัท A อาจมีการกำหนดว่าต้องแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR ก่อนทุกวันที่ 15 ของเดือน เพื่อให้มีผลในเดือนถัดไป เป็นต้น

ตัวอย่างรายการลดหย่อนภาษีที่ควรแจ้ง

  • เบี้ยประกันชีวิต
  • เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย
  • เงินบริจาค
  • ค่าการศึกษาบุตร
  • กองทุนลดหย่อนภาษี SSF/RMF/ThaiESG

อย่าลืม! แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การคำนวณภาษีของคุณเป็นปัจจุบันที่สุดการแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วน ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระภาษีของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีเงินเหลือใช้มากขึ้นในแต่ละเดือนอีกด้วย อย่าปล่อยให้เงินของคุณถูกหักภาษีโดยไม่จำเป็น เริ่มแจ้งสิทธิลดหย่อนของคุณกับ HR วันนี้!

ตัวอย่างสิทธิประโยชน์การแจ้งรายการลดหย่อนภาษีกับ HR

สมมติคุณมีเงินเดือน 50,000 บาท และไม่มีโบนัส

  • หากคุณไม่แจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR: HR จะคิดเสมือนว่าคุณมีเฉพาะค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาทเท่านั้น และจะหักรายได้ของคุณตามฐานภาษีนำส่งสรรพภากรทุกเดือน ในกรณีนี้ฐานภาษีของคุณคือ 15% ทาง HR ก็จะมีการหักเงิน 15% จากรายได้สุทธิทั้งปี หรือ 6,750 บาทต่อเดือนนำส่งให้สรรพากร ทำให้คุณจะได้รับเงินเดือนสุทธิอยู่ที่ 43,250 บาท (กรณีไม่มีหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ประกันสังคม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น)
  • หากคุณแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR: HR จะนำค่าลดหย่อนส่วนที่แจ้งมารวมกับค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และจะหักรายได้ของคุณตามฐานภาษีนำส่งสรรพภากรทุกเดือน สมมติว่าคุณมีรายการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม 120,000 บาทต่อไป ในกรณีนี้จะทำให้ฐานภาษีของคุณเปลี่ยนจาก 15% เป็น 10% ทำให้ทาง HR ก็จะมีการหักเงิน 10% จากรายได้สุทธิทั้งปี หรือ 3,500 บาทต่อเดือนนำส่งให้สรรพากร ทำให้คุณจะได้รับเงินเดือนสุทธิอยู่ที่ 46,500 บาท (กรณีไม่มีหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ประกันสังคม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น)

จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่า การแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR ทำให้คุณ ได้รับเงินเดือนสุทธิต่อเดือนมากขึ้นถึง 3,250 บาท และลดความยุ่งยากในการขอภาษีคืนช่วงต้นปีเนื่องจากชำระภาษีไว้เกิน

เคล็ดไม่ลับการแจ้งสิทธิลดหย่อนภาษีกับ HR

คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งรายการลดหย่อนภาษีที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น แต่สามารถแจ้งรายการลดหย่อนภาษีในอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นด้วยก็ได้ เช่น คุณวางแผนจะซื้อกองทุน SSF/RMF/ThaiESG ก่อนสิ้นปี 200,000 บาท แต่ยังไม่ได้ซื้อ สามารถแจ้งยอด 200,000 บาทให้ HR ได้ตั้งแต่ต้นปี เพื่อลดยอดหักภาษีรายเดือน เป็นต้น

เพราะเรื่องภาษีไม่ยากหากวางแผนอย่างรอบคอบและถูกวิธี เริ่มต้นวางแผนภาษีวันนี้กับ Pi Financial Application ไม่ว่าจะเป็นกองทุน SSF/RMF/ThaiESG กองไหน ก็สามารถซื้อได้ที่ Pi Financial Application เพราะที่ Pi มีกองทุนมากกว่า 1,800 กองทุนจาก 18 บลจ. ชั้นนำให้คุณได้เลือกลงทุนได้ในที่เดียว

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited