ลงทุนง่าย คล้ายกองทุน แถมสภาพคล่องดี ซื้อขายได้เหมือนหุ้น รู้จักกับกองทุน ETF

Published
Share this article:
banner image

ลงทุนง่าย คล้ายกองทุน แถมสภาพคล่องดี ซื้อขายได้เหมือนหุ้น รู้จักกับกองทุน ETF

กองทุน ETF (Exchange-Traded Fund) เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในตลาดทุน ด้วยคุณสมบัติที่ผสมผสานข้อดีของกองทุนรวมและหุ้น ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้สะดวกและเข้าถึงการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ETF และเหตุผลที่ควรมีติดพอร์ต พร้อมเคล็ดลับสำคัญก่อนเริ่มลงทุน

5 ข้อดี ทำไมควรมีกองทุน ETF ติดพอร์ต

  1. สภาพคล่องสูง: ซื้อขายได้เหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ระหว่างเวลาเปิดตลาด
  2. ต้นทุนต่ำ: ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการถูกกว่ากองทุนรวมทั่วไป
  3. การกระจายความเสี่ยง: ลงทุนในสินทรัพย์หลายตัวในกองทุนเดียว
  4. โปร่งใส: ข้อมูลสินทรัพย์ที่กองทุนถือครองถูกเปิดเผยอย่างสม่ำเสมอ
  5. เข้าถึงง่าย: นักลงทุนรายย่อยสามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนไม่สูง

ETF มีกี่ประเภท

ETF มีหลากหลายประเภทที่ตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกัน เช่น

  • ETF หุ้น: ลงทุนในดัชนีตลาดหุ้น เช่น SET50
  • ETF สินค้าโภคภัณฑ์: อ้างอิงราคาทองคำ น้ำมัน หรือสินค้าอื่นๆ
  • ETF พันธบัตร: ลงทุนในตราสารหนี้
  • ETF อสังหาริมทรัพย์: ลงทุนใน REITs หรืออสังหาริมทรัพย์
  • ETF ระดับโลก: ลงทุนในสินทรัพย์หรือดัชนีจากต่างประเทศ

3 ข้อควรรู้ก่อนลงทุน ETF

  1. ศึกษาดัชนีอ้างอิง: ตรวจสอบว่าสินทรัพย์ที่ ETF อ้างอิงเหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของคุณหรือไม่
  2. ความเสี่ยงของตลาด: แม้จะมีการกระจายความเสี่ยง แต่ราคาของ ETF ยังคงผันผวนตามสินทรัพย์ที่อ้างอิง
  3. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย: แม้ ETF มีค่าธรรมเนียมต่ำ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย

เริ่มต้นลงทุน กองทุน ETF และ หุ้นต่างประเทศ ได้แล้ววันนี้ที่แอป Pi Financial ช่วยให้คุณลงทุนหุ้นสหรัฐได้ง่ายๆ แบบ Real Time ด้วยเงินลงทุนเรื่มต้นไม่สูง เพราะสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเศษหุ้นเพียง 0.01 หุ้นเท่านั้น เปิดโอกาสการลงทุนให้เติบโตไปอีกขั้นด้วยหุ้นต่างประเทศและ ETF ที่ Pi Financial เลย

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน