ขับเคลื่อนพอร์ตลงทุนต่างประเทศของคุณ ด้วย 5 หุ้น Semiconductor ตัวเด็ด

Published
Share this article:
banner image

ขับเคลื่อนพอร์ตลงทุนต่างประเทศของคุณ ด้วย 5 หุ้น Semiconductor ตัวเด็ด

ปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนทุกสิ่งตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อโลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ความต้องการชิปขั้นสูงก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Pi Knowledge จะพาคุณไปรู้จัก 5 หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่น่าสนใจ พร้อมเหตุผลว่าทำไมการลงทุนในหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ถึงน่าสนใจ

ทำความรู้จัก Semiconductor คืออะไร?

เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) หรือสารกึ่งตัวนำ คือวัสดุที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าอยู่ระหว่างตัวนำไฟฟ้า (เช่น โลหะ) และฉนวนไฟฟ้า (เช่น พลาสติก) เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จนกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกชนิด ตั้งแต่สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงรถยนต์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จึงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคที่การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทำไมจึงควรลงทุนในหุ้นเซมิคอนดักเตอร์?

  1. มีความต้องการที่เพิ่มขึ้น: ด้วยการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things, IoT) ความต้องการชิปที่ผลิตมาจาก Semiconductor เพิ่มขึ้นอย่างมาก
  2. เป็นเทคโนโลยีที่จำเป็น: เซมิคอนดักเตอร์เป็นกระดูกสันหลังของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ ทำให้มีความสำคัญอย่างยิ่งในหลากหลายอุตสาหกรรม
  3. มีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรม: การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีชิปผลักดันการเติบโตและสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ
  4. มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ: รัฐบาลหลายประเทศตระหนักถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่นโยบายที่เอื้อประโยชน์และการลงทุนจากภาครัฐ

5 หุ้น Semiconductor ที่น่าสนใจ

1. NVIDIA Corporation (NVDA)

NVIDIA เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 โดยเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ในการประมวลผลกราฟิกในคอมพิวเตอร์และเกม รวมถึงการประยุกต์ใช้ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving) นอกจากนั้น NVIDIA ยังมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาระบบคลาวด์คอมพิวติ้งและการประมวลผลแบบขนาน (Parallel Computing) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการเทคโนโลยี NVIDIA ยังเคยเติบโตจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วยมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนและศักยภาพในการเติบโตของบริษัท

จุดเด่นของ NVIDIA

  • เป็นผู้นำในตลาด GPU: NVIDIA เป็นผู้นำตลาดในด้านหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) โดยเฉพาะในตลาดเกมและการประมวลผลประสิทธิภาพสูง ส่วนแบ่งตลาดที่สูงในอุตสาหกรรมเกม ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • ตลาด AI และ Machine Learning กำลังเติบโต: NVIDIA ได้ขยายการใช้งาน GPUs ไปสู่ตลาด AI และ Machine Learning ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ชิป AI ของบริษัทถูกใช้ใน Data Center ขนาดใหญ่ทั่วโลก เพื่อการประมวลผล AI และ Big Data
  • พัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง: บริษัทลงทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนา นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ซีรีส์ RTX เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมล่าสุด ที่นำเทคโนโลยี Ray Tracing มาใช้ในการสร้างภาพกราฟิกที่สมจริงยิ่งขึ้น
  • ตลาดยานยนต์ขยายตัว: NVIDIA กำลังเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไร้คนขับและระบบช่วยการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) แพลตฟอร์ม NVIDIA DRIVE ของบริษัทกำลังได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์หลายราย
  • สถานะทางทางการเงินแข็งแกร่ง: NVIDIA มีงบดุลที่แข็งแกร่ง มีเงินสดจำนวนมาก และมีหนี้สินต่ำ บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง แสดงถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • มีศักยภาพในการเจาะตลาดใหม่ๆ : NVIDIA กำลังขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยี Edge Computing และ Internet of Things (IoT) บริษัทมีโอกาสเติบโตในตลาด 5G และการประมวลผลควอนตัม

2. Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSM)

Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในไต้หวัน โดย TSMC เป็นผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยไม่มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง (fabless) บริษัทพัฒนาและผลิตชิปสำหรับลูกค้าหลายราย รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple, AMD, และ NVIDIA ชิปของ TSMC ถูกใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง เช่น การประมวลผลด้วย AI และอุปกรณ์ที่ใช้ในเทคโนโลยี 5G

จุดเด่นของ Taiwan Semiconductor Manufacturing

  • มีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง: TSMC เป็นผู้นำในการพัฒนาและผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้กระบวนการผลิตระดับนาโน ที่ระดับ 3-5 นาโนเมตร เป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้ TSMC สามารถผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานได้ดีมาก
  • มีโรงงานผลิตเฉพาะ (Pure-play foundry): TSMC เป็นบริษัทที่เน้นผลิตชิปให้กับบริษัทอื่นๆ โดยไม่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จึงเป็นคู่ค้าสำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Apple, NVIDIA และ Qualcomm หากบริษัทเหล่านี้มีการเติบโตที่ดี ก็ย่อมส่งผลต่อการเติบโตของ TSMC ด้วย
  • มีความน่าเชื่อถือสูง: TSMC ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพของชิปที่ผลิตและการส่งมอบตรงเวลา ซึ่งทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลกไว้วางใจในการสั่งผลิตชิปกับ TSMC
  • ลงทุนในวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (R&D): TSMC ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำในตลาด และตอบสนองความต้องการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

3. Advanced Micro Devices, Inc. (AMD)

Advanced Micro Devices, Inc. (AMD) เป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1969 โดยเน้นพัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกลาง (CPU), หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU), และชิปเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ สำหรับคอมพิวเตอร์, เซิร์ฟเวอร์, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ AMD เป็นคู่แข่งสำคัญของ Intel ในตลาด CPU และคู่แข่งของ NVIDIA ในตลาด GPU โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับ Gaming PC และการประมวลผลข้อมูลขั้นสูง (High-performance computing) ผลิตภัณฑ์เด่นของ AMD เช่น Ryzen CPUs และ Radeon GPUs ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความคุ้มค่าราคา

จุดเด่นของ Advanced Micro Devices

  • มีผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้บริโภค: หน่วยประมวลผล Ryzen และ EPYC ของ AMD ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กร ด้วยประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลหลายคอร์ ในราคาที่มักคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Intel
  • พัฒนาเทคโนโลยีนาโนที่ระดับ 5-7 นาโนเมตร: AMD เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้า เช่น 7 นาโนเมตร และ 5 นาโนเมตร มาใช้ใน CPU และ GPU ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและลดการใช้พลังงาน
  • ประสบความสำเร็จในตลาด GPU: AMD มีผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ด Radeon ที่แข่งขันกับ NVIDIA โดยเฉพาะในด้านเกมมิ่งและการประมวลผลกราฟิกประสิทธิภาพสูง ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มเกมเมอร์และผู้ที่ทำงานด้านการสร้างสรรค์เนื้อหา
  • เป็นคู่แข่งรายสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์: โปรเซสเซอร์ EPYC ของ AMD กำลังได้รับความนิยมในตลาดเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูล โดยให้ประสิทธิภาพการประมวลผลสูงในระบบที่ใช้หลายคอร์ ซึ่งเริ่มเข้ามาท้าทายตลาดของ Intel อย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
  • ได้รับการสนับสนุนจากผู้พัฒนาเกม: AMD ทำงานใกล้ชิดกับนักพัฒนาเกมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ในการใช้งานกับซอฟต์แวร์เกม ซึ่งช่วยให้กราฟิกและการประมวลผลของเกมทำงานได้ดีขึ้น

4. Broadcom Inc. (AVGO)

Broadcom Inc. (AVGO) เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่เชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์และโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดย Broadcom ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งชิปสำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย (Networking), การสื่อสารไร้สาย, อุปกรณ์เก็บข้อมูล, รวมถึงโซลูชันด้านการจัดการโครงสร้างพื้นฐานในองค์กร นอกจากนั้น Broadcom ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสมาร์ทโฟน, เซิร์ฟเวอร์, ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง, และโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่สำคัญต่างๆ

จุดเด่นของ Broadcom Inc.

  • มีผลิตภัณฑ์หลากหลายและครบวงจร: Broadcom มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลายกลุ่มเทคโนโลยี เช่น เซมิคอนดักเตอร์สำหรับการสื่อสารไร้สาย, การเชื่อมต่อเครือข่าย, และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้ยังมีโซลูชันด้านซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร ทำให้บริษัทมีบทบาทในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น โทรคมนาคม, อุตสาหกรรมการผลิต และศูนย์ข้อมูล
  • มีความเชี่ยวชาญด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย: Broadcom เป็นผู้นำด้านการพัฒนาโซลูชันการเชื่อมต่อเครือข่าย เช่น ชิปที่ใช้ในเราเตอร์, สวิตช์ และเครือข่ายองค์กร ซึ่งใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้จัดหาชิปที่สำคัญที่สุดในตลาดนี้
  • เติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดเทคโนโลยี: Broadcom เติบโตอย่างรวดเร็วจากการเข้าซื้อกิจการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การเข้าซื้อ CA Technologies และ Symantec ซึ่งช่วยให้ Broadcom สามารถขยายไปสู่ธุรกิจซอฟต์แวร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และเพิ่มความหลากหลายในพอร์ตผลิตภัณฑ์ของตน
  • มีพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก: Broadcom ทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Apple, Google, และ Amazon ในการจัดหาชิปสำหรับสมาร์ทโฟนและระบบเครือข่าย ซึ่งทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่มั่นคงและกว้างขวาง

5. Analog Devices, Inc. (ADI)

Analog Devices, Inc. (ADI) เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1965 ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตวงจรรวมสัญญาณผสม (Mixed-Signal ICs) และวงจรอนาล็อก (Analog ICs) โดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับ การวัด การเชื่อมต่อ และการแปลงข้อมูลจากสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิทัล ผลิตภัณฑ์ของ ADI ถูกใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การสื่อสาร, การแพทย์, ยานยนต์, และระบบอุตสาหกรรม ทำให้ ADI มีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ IoT, ระบบประมวลผลแบบฝังตัว (Embedded Systems) และเทคโนโลยีเซ็นเซอร์

จุดเด่นของ Analog Devices, Inc.:

  • มีความเชี่ยวชาญในวงจรอนาล็อกและสัญญาณผสม: ADI มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาวงจรอนาล็อกและวงจรรวมสัญญาณผสมที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงจรสำหรับการแปลงข้อมูลจากสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิทัล (Analog-to-Digital Conversion) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภท เช่น IoT และการประมวลผลข้อมูล
  • หลายอุตสาหกรรมใช้ผลิตภัณฑ์ของ ADI: ผลิตภัณฑ์ของ ADI ถูกนำไปใช้ในหลากหลายภาคส่วน เช่น ยานยนต์, การแพทย์, การสื่อสาร, อุตสาหกรรม และการทหาร ทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่หลากหลายและมั่นคง ADI เป็นผู้เล่นสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านเซ็นเซอร์, ระบบฝังตัว (Embedded Systems) และระบบไร้สาย
  • เน้นพัฒนาเทคโนโลยี IoT และ 5G: ADI ลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ 5G ซึ่งมีความสำคัญต่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในอนาคต ทำให้บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการรองรับการเติบโตของตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง
  • ควบรวมกิจการเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง: ADI มีการขยายกิจการอย่างต่อเนื่องผ่านการเข้าซื้อบริษัทที่เสริมศักยภาพ เช่น การซื้อกิจการ Maxim Integrated ในปี 2021 ซึ่งทำให้ ADI สามารถขยายตลาดและเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์สัญญาณผสมได้มากขึ้น

หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดสหรัฐเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสเติบโตระยะยาว อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและพิจารณาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน หากสนใจลงทุนในหุ้นยา สามารถเริ่มต้นลงทุนง่ายๆ ได้แล้ววันนี้ที่ Pi Financial Application

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited