KT-CHINA กองทุนจีนน่าลงทุน 2024 แนะนำจาก Pi Financial

Published
Share this article:
banner image

KT-CHINA กองทุนจีนน่าลงทุน 2024 แนะนำจาก Pi Financial

มังกรจีนกลับมาผงาด หลังแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดันตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นร้อนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดัชนี CSI300 ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงติดต่อกันถึง 9 วัน เพิ่มขึ้นกว่า 27% การปรับตัวขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงผลักดันจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่เน้นการผ่อนคลายกฎระเบียบด้านที่อยู่อาศัย การลดอัตราดอกเบี้ยทั่วไป และการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นจีนดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง นักลงทุนต่างชาติและนักลงจีนหันกลับมามองตลาดจีนอีกครั้งหลังจากที่ตลาดซบเซามาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการลงทุนในดัชนี H-Share ที่มีแนวโน้มดีและเป็นโอกาสสำคัญในการปรับแผนการลงทุน

ดัชนี H-Share คืออะไร

ดัชนี H-Share (Hang Seng China Enterprises Index หรือ HSCEI) เป็นดัชนีที่ติดตามหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange) ในกลุ่มที่เรียกว่า H-Shares โดยบริษัทเหล่านี้มักเป็นบริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีนหรือมีความเกี่ยวข้องกับรัฐ

ดัชนี H-Share ถูกใช้เป็นเกณฑ์ในการวัดความเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัทจีนที่มีขนาดใหญ่ และมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจจีน ดัชนีนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่สนใจตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนผ่านตลาดหุ้นฮ่องกง

ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในดัชนี H-Share (HSCEI) เป็นบริษัทจีนขนาดใหญ่ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น

  1. Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) - ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของจีน
  2. China Construction Bank (CCB) - หนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน
  3. PetroChina - บริษัทพลังงานและน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของจีน
  4. China Life Insurance - บริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของจีน
  5. Ping An Insurance - หนึ่งในบริษัทประกันภัยและการเงินที่ใหญ่ที่สุดของจีน
  6. China Telecom - บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน
  7. China Mobile - บริษัทให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของจีน
  8. Sinopec - บริษัทน้ำมันและพลังงานขนาดใหญ่ของจีน
  9. Bank of China (BOC) - ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่มีการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  10. China Merchants Bank - หนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในจีน

KT-CHINA: กองทุนจีนศักยภาพที่เน้นการลงทุนในดัชนี H-Share

กองทุน KT-CHINA เป็นกองทุนทีเน้นลงทุนในดัชนี HSI และ HSTECH (H-share) รวมถึง All-Shares ซึ่งเป็นการลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศจีน กองทุนนี้ให้ความสำคัญกับบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในประเทศจีนหรือในต่างประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของจีน

ทำไมกองทุน KT-CHINA ถึงน่าลงทุน

1. โอกาสในตลาดที่มีขนาดใหญ่
จีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่และประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน ทำให้มีความต้องการสินค้าและบริการในหลายภาคส่วน เช่น เทคโนโลยี พลังงาน การเงิน และการแพทย์ การเติบโตของชนชั้นกลางในจีนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

2. การเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีน
จีนเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก โดยมีบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น Alibaba, Tencent, Baidu และ Xiaomi ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งในด้านอินเทอร์เน็ตและนวัตกรรมทางการเงิน (Fintech) การลงทุนในหุ้นบริษัทเหล่านี้ผ่าน KT-CHINA จึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงภาคเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

3. นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
รัฐบาลจีนมีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนภาคธุรกิจภายในประเทศ รวมถึงการผลักดันนโยบายที่เน้นการพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยีและการผลิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทท้องถิ่นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน กองทุน KT-CHINA สามารถได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้

4. การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล
ตลาดการค้าออนไลน์และบริการดิจิทัลในจีนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่ม E-commerce และธุรกิจการเงินดิจิทัล (Digital Finance) กองทุน KT-CHINA ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเหล่านี้จึงมีศักยภาพในการเติบโต

5. การบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ
KT-CHINA เป็นกองทุนที่บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (KTAM) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในตลาดจีน โดยกองทุนนี้จะคัดเลือกหุ้นของบริษัทจีนที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโต ทำให้เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในต่างประเทศ

6. โอกาสการลงทุนระยะยาว
การลงทุนในจีนอาจมีความผันผวนในระยะสั้นจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมือง อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่มองหาระยะยาว เศรษฐกิจจีนยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การลงทุนผ่าน KT-CHINA จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายพอร์ตการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการเติบโตในตลาดหุ้นจีน

ผลการดำเนินงานของกองทุน KT-CHINA

กองทุน KT-CHINA มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยสามารถ รักษาตำแหน่งใน Quartile 1 หรือ 2 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือหมายความว่า สามารถสร้างผลตอบแทนได้อยู่ใน 50% แรก เทียบกับกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงตลาดเป็นขาขึ้น

ผลตอบแทนย้อนหลัง ( ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2567)

  • 3 เดือน: -4.92%
  • 6 เดือน: +1.79%
  • 1 ปี: -4.17%
  • 3 ปี: -19.64%
  • 5 ปี: -4.74%

10 บริษัทที่กองทุน KT-CHINA ลงทุนมากที่สุด

  1. Tencent - บริษัทเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของจีน ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน WeChat และมีธุรกิจในเกมออนไลน์ บริการคลาวด์ และสื่อดิจิทัล
  2. Alibaba - บริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำของจีน มีแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์อย่าง Alibaba.com และ Tmall รวมถึงธุรกิจคลาวด์และการเงินผ่าน Alipay
  3. China Construction Bank - หนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ให้บริการทางการเงินทั้งในและนอกประเทศ
  4. Meituan - แพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำที่ให้บริการจองอาหาร การท่องเที่ยว และบริการดิจิทัลอื่น ๆ ในจีน
  5. PDD (Pinduoduo) - แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เน้นการซื้อขายแบบกลุ่ม ด้วยสินค้าที่มีราคาถูกและเจาะตลาดผู้บริโภคในระดับท้องถิ่น
  6. Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) - ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของจีน และหนึ่งในธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในโลก
  7. NetEase - บริษัทเทคโนโลยีและบันเทิงของจีนที่มีธุรกิจหลักในการพัฒนาเกมออนไลน์ เพลง และสื่อดิจิทัล
  8. BYD - บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเน้นการพัฒนายานพาหนะพลังงานสะอาด
  9. Postal Savings Bank of China - ธนาคารที่เน้นให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ชนบทของจีน และเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ
  10. China Merchants Bank - ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของจีนที่เน้นการให้บริการทางการเงินกับธุรกิจและผู้บริโภครายย่อย

ข้อมูลพื้นฐานของกองทุน KT-CHINA

  • บริหารจัดการโดย: บลจ.กรุงไทย (KTAM)
  • ประเภทกอง: Greater China Equity
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): BFG China Fund
  • นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม (Hedge Fund)
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (Management Fee): 0.8% ต่อปี
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Minimum buy): 1,000 บาท
  • รายละเอียดเพิ่มเติม

โปรโมชันพิเศษ สำหรับกองทุน KT-CHINA

ซื้อกองทุน KT-CHINA ที่ Pi Financial ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับ iPhone 16 Pro Max 256 GB มูลค่า 56,900 บาท

ลงทุนสะสมได้ตั้งแต่ 16 ก.ย. - 15 ธ.ค. 2567

ศึกษารายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติม

ลงทุนกองทุน KT-CHINA และกองทุนรวมจาก 18 บลจ. ชั้นนำได้แล้ววันนี้ที่ Pi Financial

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
  • ผลตอบแทนในอดีตของกองทุนรวมมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited