เปรียบเทียบกองทุน Active vs Passive Funds ต่างกันอย่างไร เลือกลงทุนกองทุนแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?
เปรียบเทียบกองทุน Active vs Passive Funds ต่างกันอย่างไร เลือกลงทุนกองทุนแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?
การลงทุนใน กองทุนรวม (Mutual Funds) เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนโดยไม่ต้องบริหารพอร์ตด้วยตัวเอง กองทุนแบ่งออกเป็น Active Funds และ Passive Funds ซึ่งมีจุดเด่นและกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน
วันนี้ Pi Financial จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่าง ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีเลือกกองทุนที่เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ
กองทุน Active Funds คืออะไร?
Active Funds คือกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนบริหารพอร์ตการลงทุนโดยพยายามเอาชนะตลาด (Benchmark) ผ่านการเลือกหุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างมีกลยุทธ์
ลักษณะเด่นของกองทุน Active Funds
- บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์
- มีการซื้อ-ขายหลักทรัพย์เพื่อปรับพอร์ตให้เหมาะสม
- มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด
ตัวอย่างกองทุน Active Funds เช่น กองทุนหุ้นเติบโต (Growth Funds) และกองทุนหุ้นคุณค่า (Value Funds) เป็นต้น
กองทุน Active Funds มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของ Active Funds
- โอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าตลาด
- มีผู้จัดการกองทุนช่วยตัดสินใจการลงทุน
- ปรับพอร์ตได้ตามสภาวะตลาด
ข้อเสียของ Active Funds
- ค่าธรรมเนียมสูงกว่ากองทุน Passive
- มีความเสี่ยงจากการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุน
- ผลตอบแทนไม่แน่นอน อาจต่ำกว่าดัชนีตลาด
Active Funds เหมาะกับใคร
- นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าตลาด
- รับความเสี่ยงได้สูง และมีเวลาติดตามผลการดำเนินงาน
- เชื่อมั่นในฝีมือของผู้จัดการกองทุน
กองทุน Passive Funds คืออะไร?
Passive Funds เป็นกองทุนที่ลงทุนตามดัชนีตลาด (เช่น SET50, S&P 500) โดยไม่มีการบริหารเชิงรุกจากผู้จัดการกองทุน
ลักษณะเด่นของ Passive Funds
- ลงทุนตามดัชนีตลาด ไม่มีการเลือกหุ้นเป็นรายตัว
- ค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุน Active
- เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวและลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของผู้จัดการกองทุน
กองทุน Passive Funds มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของ Passive Funds
- ค่าธรรมเนียมต่ำ
- ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีตลาด
- ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนแบบ Active
ข้อเสียของ Passive Funds
- ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด
- ไม่มีการปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์เศรษฐกิจ
Passive Funds เหมาะกับใคร
- นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการความมั่นคง
- ต้องการลงทุนแบบต้นทุนต่ำ
- ไม่มีเวลาติดตามตลาด
จะรู้ได้อย่างไรว่ากองทุนไหนเป็น Active Funds หรือ Passive Funds?
สามารถเช็กได้จาก หนังสือชี้ชวนกองทุน (Fund Fact Sheet) หรือ เว็บไซต์ของ บลจ. (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) โดยดูที่
- กลยุทธ์การลงทุน – ถ้ากองทุนพยายามเลือกหุ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงกว่าตลาด มักเป็น Active Funds
- ค่าธรรมเนียมการบริหาร – ถ้าสูงกว่า 1% มักเป็น Active Funds ส่วน Passive Funds มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า
- เป้าหมายกองทุน – ถ้าระบุว่าต้องการ "เลียนแบบดัชนีตลาด" แสดงว่าเป็น Passive Funds
อยากลงทุนกองทุน Active Funds และ Passive Funds เริ่มต้นได้ง่ายๆ ที่แอป Pi Financial
Pi Financial เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณลงทุนในกองทุนรวมได้ง่าย ๆ มีทั้ง Active Funds และ Passive Funds ให้เลือก พร้อมข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ
คำเตือน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน