WHA (BUY : Fair Price : Bt 6.10) : คาด 4Q24 กำไรสูงสุดของปี 24
**เรายังมีมุมมองที่ดีในระยะยาวกับ WHA เช่นเดิม โดยคาดว่าเป็นผู้ประกอบการที่มีปัจจัยบวกรออยู่หลายด้านทั้งในแง่ของการย้ายฐานการผลิตออกมาจากจีน การขยายการลงทุนด้าน Data Center ในประเทศไทย รวมถึงการขยายธุรกิจในกลุ่มพลังงานสะอาดที่เป็นความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคต นอกจากนี้ธุรกิจให้เช่ารถ EV ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ขณะที่แนวโน้มในปี 25 แม้บริษัทจะตั้งเป้ายอดขายที่ดินเพียง 2,350 ไร่ ต่ำกว่าปี 24 แต่ด้วยการมี Backlog ที่ยกมารับรู้ในปี 25 กว่า 1,500 ไร่ ทำให้ยอดโอนที่ดินในปี 25 ยังคงเห็นการฟื้นตัวได้อยู่ เราจึงยังมองว่าผลประกอบการยังเติบโตได้ สำหรับ 4Q24 เราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,423 ล้านบาท (-41%YoY, +210%QoQ) โดยเป็นกำไรสุทธิที่ดีที่สุดของปี 24 **
**คาดกำไรสุทธิ 4Q24 ดีสุดของปี 24 ที่ 1,423 ล้านบาท **
• เราคาดว่า WHA จะมีกำไรสุทธิงวด 4Q24 ที่ระดับ 1,423 ล้านบาท (-41%YoY,+210%QoQ) การลดลงจากปีก่อนเพราะรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนมีมูลค่าต่ำกว่า (1,065 ล้านบาทเทียบกับ 2,783 ล้านบาท) และ ยอดโอนที่ดินที่ต่ำกว่า 500 ไร่ เทียบกับ 1,189 ไร่ ส่วนการเติบโตจาก 3Q24 เกิดจากการมีรายได้จากการขายสินทรัพย์และยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น (3Q24 มียอดโอนเพียง 370 ไร่)
• รายได้คาดที่ 2,881 ล้านบาท (-45%YoY,+42%QoQ) สาเหตุตามที่กล่าวไปข้างต้น และที่ดินที่โอนบางส่วนใน 4Q24 เป็นที่ดินในนิคม IER ที่ต้องไปรับรู้ผ่านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนแทน
• กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 57% เพิ่มขึ้นจาก 55% ใน 4Q23 และ 49% ใน 3Q24 ได้รับผลดีจากที่ดินที่โอนมีราคาที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 438 ล้านบาท (-46%YoY,+3%QoQ)
• รายได้อื่น (รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนด้วยและไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน) อยู่ที่ 598 ล้านบาท (-11%YoY และพลิกจากที่ขาดทุน 36 ล้านบาท) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดที่ 284 ล้านบาท (-59%YoY,-63%QoQ) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากธุรกิจไฟฟ้าคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
• รวมแล้วปี 24 เราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 4,535 ล้านบาท (+2%YoY) ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย
**ปี 25 ตั้งเป้ายอดขายที่ดินอาจจะต่ำกว่าปี 24 แต่ยอดโอนโต **
ภาพรวมปี 25 WHA ยังคงตั้งเป้าเติบโตทุกธุรกิจ โดยในกลุ่มธุรกิจ Logistic คาดว่าจะมีพื้นที่เช่าเพิ่ม 200,000 ตร.ม. ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเวียดนามที่โรงงานใหม่แล้วเสร็จพร้อมให้เช่าตั้งแต่ปลายปี 24 ที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมคาดว่าจะได้รับผลดีจากการย้ายฐานการผลิตออกมาจากจีน รวมถึงความต้องการที่ดินจากธุรกิจ Data Center ที่ยังมีความต้องการอีกมาก โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 2,350 ไร่ ต่ำกว่าปี 24 ที่ทำได้ 2,565 ไร่ แต่คาดว่ายอดโอนจะสูงกว่า 2,070 ไร่ในปี 24 เพราะมี Backlog ที่รอโอนอีกกว่า 1,500 ไร่ ธุรกิจการขายน้ำและไฟยังคงเติบโตตามจำนวนลูกค้าในนิคม ขณะที่โรงไฟฟ้าโซล่าร์ในปี 25 จะมีกำลังการผลิตใหม่มาอีกกว่า 100 MW ซึ่งจะหนุนรายได้ให้เติบโตได้อย่างมาก ส่วนธุรกิจใหม่อย่าง Mobilix ยังคงเน้นเพิ่มจำนวนลูกค้ารถเช่า EV ให้ถึงระดับ 1,700 คัน จากสิ้นปี 24 ที่มีผู้เช่า 330 คัน
**คาดกำไรปี 25 ทะลุ 5,000 ล้านบาท **
เรายังคงคาดกำไรปี 25 อยู่ที่ระดับ 5,351 ล้านบาท (+18%YoY) จากยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวลดลงมากขณะที่มีปัจจัยบวกอยู่อีกมากดังกล่าวที่กล่าวไปข้างต้น เราจึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 6.1 บาท (17XPER’25E)