TU (BUY : Fair Price : Bt 18.10) : 2Q24 เติบโตจากอาหารแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง

Published
05 July 2024
Share this article:

**เราคาดผลประกอบการงวด 2Q24 ยังคงเห็นการเติบโตได้โดยคาดกำไรสุทธิที่ 1,287 ล้านบาท (+25%YoY,+12%QoQ) มีปัจจัยบวกจากการเติบโตของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (Ambient Seafood) และอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Care) ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่แข็ง (Frozen Seafood) แม้ยังลดลงจากปีก่อนแต่หากเทียบกับ 1Q24 แล้วจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ยังไม่มีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster เข้ามาเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับแนวโน้มในช่วง 2H24 เบื้องต้นคาดยังเห็นการเพิ่มขึ้นของรายได้อยู่ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัญหาตู้สินค้าขาดแคลนเริ่มลดลงและธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งจะไม่มีผลกระทบจากการปรับขนาดสินค้าแล้ว (Rightsizing) **

**คาด 2Q24 กำไรสุทธิ 1,287 ล้านบาท (+25%YoY,+12%QoQ) **

• เราคาดว่า 2Q24 จะมีกำไรสุทธิ 1,287 ล้านบาท (+25%YoY, +12%QoQ) ปัจจัยบวกมาจากการเติบโตของธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง การลดลงของราคาปลาทูน่าทำให้กำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น และการไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster เข้ามาเป็นไตรมาสที่ 2

• รายได้คาดที่ 35,896 ล้านบาท (+5%YoY, +8%QoQ) โดยธุรกิจอาหารแปรรูป (Ambient Seafood) และอาหารสัตว์เลี้ยง (Per care) เติบโตทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่แข็ง (Frozen Seafood) ยังคงลดลงจากปีก่อน จากผลกระทบของการปรับขนาดสินค้า (2Q23 เริ่มทำไมไม่เต็ม ไตรมาส) แต่หากเทียบกับ 1Q24 จะเติบโตอย่างมาก

• กำไรขั้นต้นคาดที่ 17.9% ดีขึ้นจาก 16.9% ใน 2Q23 และ 17.3% ใน 1Q24 เพราะต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลงในช่วง 1Q24 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยงปรับตัวเพิ่มขึ้นด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 4,559 ล้านบาท (+15%YoY, +9%QoQ) มาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น

• ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทคาดที่ 167 ล้านบาท (+5%QoQ) และพลิกจากที่รับรู้ขาดทุน 137 ล้านบาทใน 2Q23 หลังไม่ต้องรวมส่วนแบ่งจาก Red Lobster เข้ามา (2Q23 รับรู้มาประมาณ 189 ล้านบาท)

• ดอกเบี้ยจ่ายที่ 617 ล้านบาท (+12%YoY, -5%QoQ) ส่วนภาษีบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย 141 ล้านบาท จากที่รับรู้รายได้ภาษี 198 ล้านบาทใน 2Q23 เพราะไม่มีผลผลขาดทุนจาก Red Lobster มาช่วยแล้ว

มีโอกาสปรับประมาณการหลังประกาศงบ

ภาพรวมช่วง 2H24 ในแง่รายได้คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่อง จากผลของการปรับราคาสินค้าหลังจากราคาปลาทูน่าเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงผลกระทบจากนโยบายปรับขนาดสินค้าได้หมดแล้ว (ใช้ฐานเดียวกันในการคิด) ด้านธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตได้ดีจากการออกสินค้าใหม่และคำสั่งซื้อที่บางส่วนล่าช้ามาจาก 2Q24 โดยทางผู้บริหารอาจจะมีการปรับประมาณการทั้งปีใหม่ภายหลังการประกาศงบช่วงต้นเดือน ส.ค. นี้ และทำให้เรายังคงประมาณกำไรสุทธิทั้งปีที่ 5,553 ล้านบาทไว้เท่าเดิมก่อน

คงคำแนะนำเดิม “ซื้อ” เพราะแนวโน้มยังดูดี

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมโดยประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 18.1 บาท (16XPER’24E) ด้วยปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการยังคงเติบโตได้ดีจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ด้านการประกาศขายคืนหุ้นที่ TU ซื้อคืนจำนวน 200 ล้านหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์นั้น เรามองว่าเป็นการทำตามกฎตลาดเท่านั้น โดยมองว่า TU จะไม่มีการขายในตลาดแต่อย่างใด และสุดท้ายจะทำการลดทุนลง ซึ่งจะทำให้กำไรต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้