TISCO (HOLD : Fair Price : Bt 100.00) : สำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้นกดดันกำไรปี 2025
เราคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 100 บาท กำไรสุทธิใน 4Q23 ออกมาตามคาดที่ 1.7 พันล้านบาท (-4.1% YoY, -0.2% QoQ) NPL ratio ที่ 2.35% และ Coverage ratio ที่ 155.3% โดยกำไรสุทธิในปี 2024 ลดลง 5.5% YoY ที่ 6.9 พันล้านบาท เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์ แม้คาดว่ากำไรก่อนสำรองหนี้ฯ และภาษีปรับสูงขึ้นได้ในปี 2025 แต่ภาระสำรองหนี้ฯ จะสูงขึ้นเพื่อรักษาสมดุลระหว่างงบดุลแข็งแกร่ง และการเติบโตของสินเชื่อความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้น หลังผู้บริหารมองว่า Credit cost จะเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 bps เราคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับลดลงต่อเนื่อง 5.5% YoY แม้การเติบโตไม่โดดเด่น และ Upside gain ค่อนข้างจำกัด TISCO มีจุดเด่นที่จ่ายเงินปันผลสูง และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 7.1% ในปี 2025
การประชุมนักวิเคราะห์
• กลยุทธ์ธุรกิจในปี 2025 เน้นดูแลคุณภาพสินเชื่อ ปรับพอร์สินเชื่อเน้นสินเชื่อมีอัตราผลตอบแทนสูง ควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน และเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวังเหมือนเช่นในปี 2024 เพราะกังวลต่อปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ราคารถยนต์มือสองยังไม่ฟื้นตัว และลูกหนี้มีคุณภาพอ่อนอ่อนลง
• เป้าหมายปี 2025 (1) สินเชื่อเติบโตราว 5% ในปี 2025 เน้นปล่อยสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง (จำนำทะเบียนรถ, จำนองที่อยู่อาศัย, รถจักรยานยนต์) นอกจากนี้ สินเชื่อรถยนต์ใหม่มีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหมาะสมมากขึ้น (2) Credit cost มีแนวโน้มสูงขึ้นที่ 100-120 bps (2024: 60 bps) และ Coverage ratio ขั้นต่ำที่ 140% (2024: 155%) และ (3) เปิดสาขาใหม่ลดลง และให้ความสำคัญกับการเพิ่มสินเชื่อต่อสาขาสูงขึ้นด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ และ Cost to income ratio ลดลงเล็กน้อยจากปี 2024 ที่ระดับ 48.1% ในปี 2024
• โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วราว 8 พันคน และ TISCO คาดว่าจะส่งผลดีต่อคุณภาพสินเชื่อ และส่งผลให้ภาระสำรองหนี้ฯ ปรับลดลงได้ในระยะยาว
• TISCO ไม่มีแผนทำโครงการซื้อหุ้นคืน และมองว่าเงินกองทุนระดับสูงเพียงพอทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลสูงได้
คาดกำไรในปี 2025 ลดลงกดดันจากสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น
• เรามองว่า ปี 2025 ยังคงเป็นปีที่ท้าทาย แม้จะก้าวพ้นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นไปได้ ทำให้ NIM มีทิศทางที่ดีขึ้นจากการควบคุมต้นทุนการเงินที่ดีขึ้น และเติบโตสินเชื่อใหม่ที่มีผลตอบแทนสูง แต่ตลาดรถยนต์ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน ตลาดทุนมีความผันผวน และภาระสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย เพราะต้องรักษางบดุลแข็งแกร่งสอดคล้องกับการเติบโตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในปี 2025 เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะลดลงต่อเนื่อง 5.5% YoY
• ฐานเงินกองทุนแข็งกร่ง TISCO สามารถจ่ายเงินปันผลระดับสูงได้ เราคาด Dividend yield สูงที่ราว 7.1% ในปี 2025
คงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 100 บาท
เราประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 100 บาท ด้วยวิธี GGM (ROE 15%, Terminal growth 2%) อิง 1.82x PBV’25E หรือ +0.25SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี (2015-2024)