TACC (BUY : Fair Price : Bt 7.58) : 3Q24 กำไรยังดีแม้เป็นฤดูฝน

Published
Share this article:

**TACC รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q24 ที่ 61 ล้านบาท (+19%YoY,-12%QoQ) เทียบกับปีก่อนยังคงเติบโตได้ดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและการขยายสาขาของ CPALL ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ส่วนเทียบกับ 2Q24 การลดลงเป็นผลตามฤดูกาลเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน แต่สิ่งที่ดีคือกำไรขั้นต้นยังรักษาระดับ 33% ไว้ได้แม้รายได้จะลดลง 3%QoQ ก็ตาม โดยเราคาดว่าผลประกอบการช่วง 4Q24 จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังเข้าสู่ช่วง High Seasons ของการท่องเที่ยว ทั้งนี้กำไรทั้งปีที่เราประเมินที่ 237 ล้านบาท (+15%YoY) อาจจะเป็นระดับที่ต่ำไป เราจึงมีโอกาสที่จะปรับประมาณการเพิ่มในอนาคต จากแนวโน้มข้างต้นเราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม **

**3Q24 กำไรสุทธิ 61 ล้านบาท (+19%YoY,-12%QoQ) **

• TACC มีกำไรสุทธิงวด 3Q24 ที่ 61 ล้านบาท (+19%YoY,-12%QoQ) เทียบกับปีก่อนยังเติบโตดีตามการเปิดสาขาของ 7-11 และภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดี ส่วนเทียบกับ 2Q24 ลดลงตามผลของฤดูกาล

• รายได้ 481 ล้านบาท (+13%YoY,-3%QoQ) มีปัจจัยบวกจากการเปิดสาขาใหม่ของทาง CPALL ที่มีอีกประมาณ 180 สาขาในไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

• อัตรากำไรขั้นต้นที่ 33% ใกล้เคียงกับปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้าถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่แม้ว่าต้นทุนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่บริษัทรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรได้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 86 ล้านบาท (+14%YoY,+3%QoQ) เพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหารจากการปรับเงินเดือน และการปรับปรุงโรงงานทำให้มีการบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนของการผลิตมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร

• รวมแล้วในช่วง 9M24 TACC มีกำไรสุทธิ 191 ล้านบาท (+29%YoY) คิดเป็นสัดส่วน 81% ของกำไรสุทธิทั้งปีที่เราประเมินที่ 237 ล้านบาท

**4Q24 เข้าสู่ช่วง High Seasons **

แนวโน้มช่วง 4Q24 คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งจากการเข้าสู่ช่วง High Seasons ของการท่องเที่ยว รวมกับการขยายสาขาที่ยังมีอย่างต่อเนื่องทั้งของ 7-11 และร้านกาแฟพันธุ์ไทย นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากลิขสิทธิตัวละครใหม่จากทางวิธิตา แอนิเมชั่น เพิ่มทำให้มีโอกาสขยายตลาดได้อีกทาง

ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

จากกำไรสุทธิในช่วง 9M24 ที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 81% ของกำไรทั้งปีที่ 237 ล้านบาทที่เราคาดไว้ ขณะที่แนวโน้มช่วง 4Q24 ยังคงดูดีจากเหตุผลข้างต้น ทำให้เราปรับกำไรทั้งปีขึ้นจากเดิม 8% มาอยู่ที่ระดับ 256 ล้านบาท ทั้งนี้ความเสี่ยงที่ต้องติดตามคือต้นทุนกาแฟว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ สำหรับคำแนะนำการลงทุน ด้วยการที่ผลประกอบการของ TACC ได้รับผลดีจากการเปิดสาขาใหม่ของ CPALL และ พันธ์ไทย รวมกับภาคการท่องเที่ยวที่เติบโต จะเป็นปัจจัยบวกให้กับ TACC อีกทางด้วย เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 7.58 บาท (18XPER’24E) ทั้งนี้ปัจจุบันยังอยู่ในที่บริษัทประกาศขายหุ้นซื้อคืนจำนวน 8 ล้านหุ้น ที่อยู่ระหว่างวันที่ 17 พ.ค. 24- 19 พ.ค. 25 อาจจะเป็นตัวกดดันผลราคาหุ้นได้