SAT (BUY : Fair Price : Bt 16.70) : เริ่มได้คำสั่งซื้อจาก BYD แต่ไปที่ JV ก่อน
**เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เพื่อรับเงินปันผลที่ในงวด 2H24 SAT ประกาศจ่ายอีก 1.24 บาท/หุ้น (ทั้งปีจ่าย 1.5 บาท/หุ้น) คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 10 % ขณะที่การจ่ายในปี 25 คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1 บาท/หุ้น สำหรับแนวโน้มปี 25 ในแง่รายได้คาดว่ามีโอกาสเติบโตได้เล็กน้อยแต่จะเห็นในช่วง 2H25 เพราะมองว่าช่วง 1H25 ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจอยู่ ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่มีการทำสัญญาแล้วอีก 100 -200 ล้านบาท และมียืนยันเข้ามาได้แล้ว 50-70 ล้านบาท ส่วนคำสั่งจากกลุ่มรถ EV จีน ล่าสุดได้รับคำสั่งจาก BYD แล้วแต่เป็นการรับผ่านบริษัทลูกอย่างมูเบีย สมบูรณ์ มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ทั้งนี้เราปรับกำไรปี 25 ขึ้นจากเดิม 13% เป็น 709 ล้านบาท (+1%YoY) **
กำไรขั้นต้นปี 25 ดีขึ้นแต่คงไม่เท่า 4Q24
• 4Q24 กำไรขั้นของ SAT สูงถึง 20% ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทได้ทราบว่าเกิดจากผลดี 3-4 ประการ คือ ส่วนแบ่งรายได้จากเครื่องจักรกลการเกษตรและรถยนต์นั่งดีขึ้น การปรับปรุงกระบวนการผลิตภายในทั้งในแง่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการจัดหาวัตถุดิบใหม่เพื่อช่วยลดที่เริ่มมาตั้งแต่ 2Q24 และการบันทึกกลับค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เคยบันทึกไว้สูงเกินความเป็นจริง (ประมาณ 0.3% ของกำไรขั้นต้น) ซึ่งทั้งหมดที่ดำเนินการเห็นผลชัดเจนในช่วง 4Q24 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าในปี 25 กำไรขั้นต้นทั้งปีอาจจะไม่ถึงระดับ 20% เหมือนใน 4Q24 เพราะต้นทุนส่วนที่ลดลงบางส่วนต้องมีการให้ส่วนลดกับลูกค้าเช่นกัน โดยผู้บริหารมองกำไรขั้นต้นทั้งปี 25 ไว้ที่ระดับ 18.5% ใกล้เคียงกับช่วง 2H24 และดีขึ้นจาก 17.2% ในปี 24
คำสั่งซื้อใหม่มีเข้ามา แต่รับรู้ปี 25 ยังไม่มาก
สำหรับคำสั่งซื้อใหม่ที่ได้รับเข้ามาในปี 25 มีสัญญาตาม LOI แล้วประมาณ 100-200 ล้านบาท โดยมีการ Confirm แน่นอนแล้วประมาณ 50-70 ล้านบาท ได้แก่งานชิ้นส่วนงานหล่อขึ้นรูปรถกระบะ 1 ราย แต่จะเริ่มผลิตจริงในอีก 2 ปีข้างหน้า และงาน Axle Shaft รถกระบะจีน 1 ราย ที่จะเริ่มในปีนี้ แต่มูลค่าไม่มากนักต่ำกว่า 10 ล้านบาท
สำหรับคำสั่งซื้ออื่นๆ จากผู้ผลิตจีน SAT แจ้งว่าบริษัทลูกอย่าง MSA (มูเบียสมบูรณ์ ที่ SAT ถือหุ้น 40%) ได้รับคำสั่งซื้อจากทาง BYD เข้ามา 3 รุ่นได้แก่ SEAL,AOTTO และ DOLPHIN ที่มีการผลิตจากโรงงาน ในประเทศไทยแล้วในชิ้นส่วนงาน คอยล์ สปริง มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท/ปี โดย SAT จะรับรู้ผ่านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน
แนะนำ “ซื้อ” เพื่อรับปันผลเป็นหลัก
ด้วยกำไรที่ออกมาดี และแนวโน้ม 1Q25 ที่มีโอกาสเห็นกำไรฟื้นตัวจาก 1Q24 ได้จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งจะมาช่วยชดเชยรายได้ที่ยังมีแนวโน้มไม่ฟื้นตัวหลังการผลิตรถยนต์ในเดือน ม.ค. ออกมาลดลงกว่า 25%YoY ทำให้เราปรับกำไรในปี 25 ขึ้น 13% มาอยู่ที่ 709 ล้านบาท (+1%YoY) โดยปรับกำไรขั้นต้นเป็น 17.8% จากเดิม 16.7% ซึ่งยังต่ำกว่าที่ผู้บริหารคาดไว้ โดยเราจะรอดูผลประกอบการช่วง 1H25 อีกครั้ง สำหรับคำแนะนำการลงทุนด้วย SAT ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H24 อีกถึง 1.24 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 10% (รวมทั้งปีจ่าย 1.5 บาท/หุ้น) XD 5 มี.ค. จ่าย 7 พ.ค. และการจ่ายในอนาคตจะไม่ต่ำกว่าปีละ 1 บาท ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพื่อรับเงินปันผลเช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 16.7 บาท (10XPER’25E)