MTC (BUY : Fair Price : Bt 53.00) : ผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ หนุนเติบโตแกร่ง

Published
Share this article:

**เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 53.00 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 17%, Terminal growth 5%) อิงจาก 2.6x PBV’25E และ 16.3x PE’25E เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ และเห็นด้วยกับบริษัทที่จะเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องในปี 2025 เพราะความท้าทายจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าที่จะกดดันคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลงได้ เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะเติบโตแข็งแกร่ง 17.3% ในปี 2025 และ ROE เพิ่มขึ้น เป็น 17.2% ในปี 2025ด้านผลการดำเนินงานใน 4Q24 กำไรสุทธิออกมาตามคาดที่ 1.54 พันล้านบาท (+14.2% YoY, +3.5% QoQ) ด้านงบดุล NPL ratio ปรับลดลงเหลือ 2.75% และ Coverage ratio ปรับขึ้นเป็น 135.3% **

การประชุมนักวิเคราะห์

• เป้าหมายธุรกิจในปี 2025 เน้นการควบคุมคุณภาพสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต เป้าหมายทางการเงินปี 2025 ประกอบด้วย (1) สินเชื่อเติบโตไม่เกิน 15% (2) NPL ratio ต่ำกว่า 2.7% (3) credit cost ต่ำกว่า 2.8% (รวมขาดทุนการขายรถยึด) (4) cost of funding เฉลี่ยราว 4.6% (5) cost to income ratio ไม่เกิน 48% (6) เปิดสาขาใหม่ 600 แห่ง และ (7) สินเชื่อต่อสาขาประมาณ 21-22 ล้านบาท

• ด้านการบริหารสภาพคล่องเน้นความรัดกุม MTC ใช้กลยุทธ์การเพิ่มระยะเวลา (Duration) ของทั้งเงินกู้และสินเชื่อที่ยาวขึ้น โดยระยะเวลาของเงินกู้ยืมยาวกว่าของสินเชื่อเพื่อล๊อคสภาพคล่อง

• โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ส่งผลเชิงบวกต่อคุณภาพสินเชื่อดีขึ้น แต่ คาดว่าโครงการนี้อาจจะไม่ส่งผลอย่างนัยต่อบริษัท

• ความต้องการสินเชื่อในเดือน ม.ค.-ก.พ. ค่อนข้างสูงเพิ่มขึ้น 12-15% YoY แต่โดยปกติสินเชื่อใน 1Q เติบโตชะลอตัว และเร่งตัวขึ้นใน 2Q นอกจากนี้ การติดตามหนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สามารถผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ ได้ในอนาคต

คาดกำไรแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 2025-26

• MTC ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายไปแล้วหลังจากที่หนี้เสียในปี 2024 เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% YoY ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปรับขึ้นถึง 64% CAGR (2020-2023) เป็นผลจากหลายปัจจัย เช่น การรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อใหม่ การติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการแจกเงิน 10,000 บาท

• ความท้าทายจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเปาะบาง เรามองว่าการขยายสินเชื่อใหม่ต้องระมัดระวัง เราคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตต่อเนื่อง แต่ในอัตราชะลอตัวที่ 13.3%/12.7% YoY ในปี 2025-26 อย่างไรก็ดี ผลบวกจากคุณภาพสินเชื่อที่มีเสถียรภาพดีขึ้นทำให้ MTC สามารถผ่อนคลายนโยบายการตั้งสำรองหนี้ฯ ลงได้ โดยคาด Credit cost ปรับลดลงที่ 267 bps/250 bps ในปี 2025-26

• แม้คาด NIM ปรับลดลง เพราะแรงกดดันจากต้นทุนการเงินสูงขึ้น แต่อานิสงค์จากการขยายสินเชื่อ และ Credit cost ลดลง เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2025-26 จะเติบโตสูง 17.3%/17.8% ในปี 2025-26 และ ROE มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 17.2%/17.3% ในปี 2025-26

• เราประเมินว่าทุก 10 bps ของ Credit cost ที่ปรับลดลงจากสมมติฐานของเราที่ 267 bps ในปี 2025 จะส่งผลให้การคาดการณ์กำไรสุทธิปรับสูงขึ้นได้ราว 2% และ ROE ปรับสูงขึ้น 30 bps