KSL (BUY : Fair Price : Bt 2.30) : ปี 25 อ้อยเข้าหีบเพิ่ม แต่ราคาขายลด

**เรายังคงแนะนำ "เก็งกำไร" ระยะสั้นๆ ตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก เพราะผลประกอบการมีความผันผวนในแต่ละไตรมาสค่อนข้างมาก โดยราคาน้ำตาลในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงสวนทางกับการคาดหมายถึงดุลน้ำตาลโลกปี 24/25 ที่คาดว่าจะพลิกกลับมาขาดดุลประมาณ 0.7 ล้านตันน้ำตาล และเพิ่มเป็น 2.7 ล้านตันน้ำตาลในปี 25/26 จากการถือสถานะของกองทุนที่เป็น Short กว่า 60,000 สัญญา ขณะที่แนวโน้มในปี 25 KSL คาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่มเป็น 6.75 ล้านตันอ้อย (+24%YoY) แต่ต่ำกว่าเดิมที่เคยคาดว่าจะมีเข้ามา 7.25 ล้านตันอ้อยซึ่งจะมาช่วยชดเชยราคาขายที่คาดว่าจะลดลงประมาณ 12% ได้ ทั้งนี้เราปรับกำไรปี 25 ลง 5% เพื่อสะท้อนถึงปริมาณอ้อยเข้าหีบที่คาดว่าจะได้ลดลงจากประมาณการครั้งก่อน **

**ภาพรวมราคาน้ำตาลยังผันผวน **

• ภาพรวมราคาน้ำตาลในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับ 22 Cents/Pound เหลือเพียง 18-19 Cents/Pound ในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุนปรับสถานะเป็น Short กว่า 50,000 สัญญา จากการที่ก่อนหน้านี้มีการคาดหมายถึงดุลน้ำตาลโลกที่คาดว่าจะเกิดดุล อย่างไรก็ตามในการประเมินล่าสุดของ S&P Global Commodity Insights มีการคาดหมายว่าดุลน้ำตาลในปี 24/25 และ 25/26 จะพลิกกลับมาขาดดุล หลังจากผลผลิตน้ำตาลของไทยมีแนวโน้มต่ำกว่าที่เคยคาดไว้จากระดับที่เคยคาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบมากกว่า 100 ล้านตันเหลือเพียงประมาณ 95 ล้านตัน ซึ่งอาจจะทำให้ราคาน้ำตาลหลังจากนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

• สำหรับปริมาณอ้อยเข้าหีบของ KSL ในปี 25 ทางผู้บริหารมีการปรับลดเป้าใหม่เหลือ 6.75 ล้านตันอ้อย (+24%YoY) จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 7.24 ล้านตันอ้อย เนื่องจากโรงงานแห่งใหม่ที่สระแก้วในช่วงแรกยังไม่สามารถเดินเครื่องหีบได้เต็มกำลังจากที่มี 18,000 ตัน/วันได้

• ด้านผลกระทบจากการที่จีนระงับการส่งน้ำเชื่อมจากไทยนั้น KSL คาดว่าเป็นการระงับชั่วคราว โดยจะกระทบกับผลประกอบการช่วง 1Q25 ที่อาจจะทำให้ปริมาณขายลดลงก่อนจะเพิ่มขึ้นในช่วง 2Q25

**4Q24 ขาดทุน 187 ล้านบาท **

งวด FY4Q24 (พ.ค.-ก.ค.) KSL มีผลขาดทุน 107 ล้านบาท พลิกจากที่กำไรสุทธิ 113 ล้านบาทใน FY4Q23 และ 187 ล้านบาท แต่เป็นผลขาดทุนจากการบันทึกรายการพิเศษอย่างขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์และเงินลงทุนในบริษัทร่วม รวมกับรายการพิเศษอื่นๆ กว่า 259 ล้านบาท ถ้าไม่รวมจะมีกำไรปกติที่ 151 ล้านบาท (-36%YoY,-35%QoQ) เป็นผลจากการลดลงของรายได้ที่มีเพียง 3,919 ล้านบาท (-6%YoY,-21%QoQ) หลังจากมีปริมาณขายเพียง 137,490 ตัน (-0.5%YoY,-20%QoQ) เพราะเป็นปีที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบต่ำ ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13% ลดลงจาก 14% ในปีก่อนแต่ดีขึ้นจาก 11% ใน FY3Q24

**แนะนำ "เก็งกำไร" ราคาตลาดโลกเท่านั้น **

คำแนะนำการลงทุนเรายังคงมีมุมมองเดิมคือแนะนำ “เก็งกำไร” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 2.3 บาท (0.44XPBV’25E) เป็นรอบสั้นๆ ตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกเท่านั้น เพราะผลประกอบการแต่ละไตรมาสมีความผันผวนค่อนข้างมาก ทั้งนี้ปี 25 เราปรับกำไรลงจากเดิม 5% มาอยู่ที่ 1,168 ล้านบาท (+26%YoY) เพื่อสะท้อนถึงปริมาณอ้อยเข้าหีบที่ KSL คาดว่าจะมีเข้ามา 6.75 ล้านตันอ้อย จากเดิมคาดไว้ที่ 7.25 ล้านตันอ้อย แต่เป็นปริมาณที่สูงกว่าปี 24 กว่า 24% ซึ่งจะมาชดเชยราคาขายที่คาดว่าจะลดลง 12% ตามราคาในตลาดโลก