ITC (BUY : Fair Price : Bt 30.00) : 4Q24 รายได้ดี แต่ปี 25 มีหลายสิ่งต้องดู
**เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากมองว่า อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตได้ดี รวมถึง ITC มีศูนย์วิจัยและพัฒนาสินค้าเป็นของตัวเอง ทำให้รองรับกับความต้องการที่มีมากขึ้นจากลูกค้าได้ ซึ่งจะมาช่วยหนุนการเติบโตได้อีกมากในอนาคต อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q24 แม้จะยังเห็นการเติบโตได้ดีจากปีก่อน จากคำสั่งซื้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นดีจากตลาดสหรัฐฯ แต่ในแง่กำไรขั้นต้นคาดว่าจะเห็นการลดลงจาก 3Q24 ค่อนข้างมากจากผลกระทบของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเราประเมินกำไรสุทธิที่ 789 ล้านบาท (+3%YoY) ส่วนปี 25 ด้วยการที่ ITC อาจจะต้องถูกผลกระทบจาก GMT ที่บริษัทแม่อย่าง TU ได้รับ จึงทำให้กำไรทั้งปีอาจจะออกมาต่ำกว่าที่เราคาดไว้ได้ **
4Q24 คาดกำไรสุทธิ 789 ล้านบาท (+3%YoY,-19%QoQ)
• เราคาดกำไรสุทธิงวด 4Q24 ที่ 789 ล้านบาท (+3%YoY,-19%QoQ) เทียบกับปีก่อนยังคงเติบโตได้ดีจากการขายสินค้าในกลุ่ม Premium ที่มากขึ้นโดยเฉพาะจากตลาดสหรัฐฯ ส่วนการลดลงจาก 3Q24 ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามราคาปลาทูน่า และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงบริษัท ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นมากกว่า 20%QoQ
• รายได้คาดที่ 4,778 ล้านบาท ทรงตัวจาก 4Q23 เพราะมีคำสั่งซื้อบางส่วนไม่สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้จากปัญหาขาดแคลนตู้สินค้า (เป็นปัญหาต่อเนื่องจากตั้งแต่ต้นปี) แต่เพิ่มขึ้น 8%QoQ ได้รับผลดีจากตลาดสหรัฐฯที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมาก จากการออกสินค้าใหม่ที่ร่วมมือกับทางเจ้าของผลิตภัณฑ์
• กำไรขั้นต้นคาดที่ 24.6% ดีขึ้นจาก 22% ใน 4Q23 เพราะได้รับผลดีจากสัดส่วนสินค้า Premium เพิ่มขึ้น แต่ลดลงจาก 30% ใน 3Q24 เพราะเริ่มได้รับผลกระทบจากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9%QoQ รวมกับไม่มีการกลับรายการสำรองต้นทุนวัตถุดิบเหมือนไตรมาสก่อนหน้า ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่499 ล้านบาท (+57%YoY,+22%QoQ) ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาในการปรับปรุงบริษัทที่เริ่มรับรู้มาตั้งแต่กลาง 2Q24 เป็นต้นมา
ปี 25 รายได้ยังมองโตดี แต่กำไรอาจถูกกระทบจากภาษีจ่าย
ภาพรวมปี 25 เบื้องต้นในแง่รายได้ยังคงเติบโตได้ดีโดยผู้บริหารยังคงเป้าการเติบโตไว้ที่ระดับ 13-15% ซึ่งปัจจุบันลูกค้ายังคงมีการเข้ามาเจรจาอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีความต้องการสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ทำให้ ITC ที่มีศูนย์พัฒนาสินค้าเป็นของตัวเอง สามารถรองรับกับความต้องการดังกล่าวได้ อย่างเช่นยังคงต้องการสินค้าในกลุ่ม Premium แต่ราคาที่ลดลง ซึ่งทำได้โดยการปรับสูตรหรือส่วนผสมเป็นต้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดตามในปี 25 คือผลกระทบจากมาตรการ Global minimum tax (GMT) ที่เดิมเราคาดว่า ITC จะไม่ได้รับเพราะรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ แต่ล่าสุดทางบริหารแจ้งว่าด้วยการที่บริษัทแม่อย่าง TU ถูกปรับใช้มาตรการดังกล่าว ทำให้อาจจะต้องมีการผ่องถ่ายผลกระทบมายังบริษัทลูกด้วย ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิของ ITC ที่เราคาดไว้เดิมได้จะเป็นระดับที่สูงไปเนื่องจากเดิมเราใช้สมมติฐานภาษีเพียง 3%
**ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เพราะมองระยะยาวยังดูดี **
แม้กำไรในปี 25 จะยังต้องลุ้นถึงผลกระทบจาก GMT แต่ผลกระทบดังกล่าวจะเห็นเพียงปีเดียว รวมถึงอาจจะไม่สูงอย่างที่คิดเพราะจะเริ่มเห็นผลดีจากโครงการTailwind ที่มีแผนเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานปีละ 50 ล้านเหรียญฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ด้วย ดังนั้นเราจึงยังแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 30.0 บาท (20.5XPER’25E)