HMPRO (BUY : Fair Price : Bt 11.00) : กำไร 4Q24 โต YoY ตามคาด

Published
Share this article:

รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 1.7 พันล้านบาท (+3%YoY, +20%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและ BB consensus คาด ผลจากยอดขาย Mega Home ที่ขยายตัวดี ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่เริ่มควบคุมได้ดีขึ้นจาก Hybrid store ที่ทยอยเห็นผล การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HomePro ช่วง QTD ของ 1Q25 ที่ -4% ส่วน Mega Home ยังขยายตัว +1% YoY เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 11.00 บาท ปัจจุบันซื้อขาย 16xPE’25E น่าดึงดูด และเราคาดว่ากำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่อง YoY นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผลราว 3% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เม.ย. 2025

กำไร 4Q24 โต YoY และ QoQ

• รายได้ 4Q24 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท (+0.3%YoY, +11%QoQ) ผลจากยอดขายกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านทรงตัว YoY ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท จากยอดขายสาขาใหม่ และ SSSG ของ Mega Home ที่ +4.5% YoY แม้ว่า SSSG ของ HomePro ช่วง 4Q24 ที่ -0.5% YoY จากการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนรายได้ค่าเช่าพื้นที่ลดลงเป็น 478 ล้านบาท (-6%YoY) จากการเปลี่ยนจากการจัดงาน HomePro Expo และ HomePro Fair มาเป็น Homepro Super Expo ที่แต่ละสาขาแทน

• การขยายสาขาช่วง 4Q24 : มีการเปิด 4 สาขา ประกอบด้วย HomePro 3 สาขา ที่ เชียงใหม่ (กาดรวมโชค) ภูเก็ต (เชิงทะเล) แม่สอด (Hybrid store) และ Mega Home ศรีราชา (Hybrid store) ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 4/24 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 137 สาขา (+7%YoY) แบ่งเป็น Home Pro 95 สาขา, HomePro S 5 สาขา, Mega Home 30 สาขา, และ HomePro Malaysia 7 สาขา

• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 28.5% ใน 4Q24 เพิ่มขึ้นจาก 28.3% ใน 4Q23 จาก GPM ของผลิตภัณฑ์ที่ 27.8% ใน 4Q24 เพิ่มขึ้นจาก 27.3% ใน 4Q24 และ 27.1% ใน 3Q24 จากสัดส่วน Private label ของ HomePro และ Mega Home ที่เพิ่มขึ้น

• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงเป็น 20.0% ใน 4Q24 จาก 20.2% ใน 4Q23 และ 19.8% ใน 3Q24 จากค่าใช้จ่ายที่เริ่มควบคุมได้ดีขึ้นจากการเปิดสาขา Hybrid store ที่มากขึ้น ทำให้มีต้นทุนต่อสาขาลดลง ประกอบกับค่าไฟฟ้าที่ลดลง

SSSG ของ HomePro ค่อยๆฟื้นตัว, Mage Home สดใสต่อเนื่อง

การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HomePro ช่วง 16-24 ก.พ. 2025 ติดลบลดลงเหลือไม่ถึง -1% จาก -4% ช่วงเดือนม.ค. 2025 และ -6% ถึง -8% ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2025 ขณะที่ SSSG ของMega Home ยังสดใส +1% ตั้งแต่เดือนก.พ. 2024 เทียบกับทรงตัว YoY ในเดือนม.ค. 2025 ทำให้คาดว่าผลประกอบการ 1Q25 มีโอกาสที่จะทรงตัว YoY หรืออ่อนตัวลง หาก SSSG เดือน มี.ค. 2025 ไม่พลิกกลับมาเป็นบวก อย่างไรก็ตามเราคาดว่ายอดขายสาขาใหม่จะทำให้ยอดขายรวมเติบโต YoY และคาดว่าสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรที่เท่าเดิม ทำให้กำไรยังขยายตัว YoY ในปี2025

คำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าน่าดึงดูด

มูลค่าพื้นฐาน 11.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 7.9% และ TG 2.0% เทียบเท่า 22xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย (เดิม 12.50 บาท) หลังปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อน SSSG ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวกว่าคาด