Pi STOCK UPDATE : SCC (HOLD : FAIR PRICE Bt341.00)

Published
31 July 2023
Share this article:

" กำไรปกติไตรมาส 2 ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง "

เราคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐานคำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) ที่ 341.00 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท (-19% YoY, -51% QoQ) หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะปรับดีขึ้น 14% QoQ เป็น 5.2 พันล้านบาท จากจุดต่ำในไตรมาส 4/22 หนุนขึ้นจากเงินปันผลตามฤดูกาลและส่วนแบ่งกำไรธุรกิจเคมีภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่ปรับดีขึ้น ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/23 จะอ่อนตัวลง QoQ จากการขาดหายไปของรายได้เงินปันผล โดยประเมินว่าธุรกิจหลักจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากปริมาณขายซีเมนต์ บรรจุภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ที่ปรับดีขึ้น แต่ปัจจัยรบกวนจากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่อ่อนแอจากอุปสงค์ที่เบาบางในจีนและอุปทานส่วนเพิ่มคาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการขยายตัวของอัตรากำไรบริษัท

กำไรปกติไตรมาส 2/23 ปรับดีขึ้น QoQ

• กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท (-19% YoY, -51% QoQ) แม้จะหดตัวลงแต่ถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาด

• หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท (-49%YoY, +14% QoQ) ที่ลดลง YoY เป็นผลจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ลดลงเพราะปริมาณขาย ส่วนต่างราคาสินค้า และส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจากฐานสูงในไตรมาส 2/22 แต่ที่ดีขึ้น QoQ ได้แรงหนุนจากเงินปันผลตามฤดูกาล บวกกับส่วนแบ่งกำไรธุรกิจเคมีภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น แม้ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างจะมีผลงานที่อ่อนแอก็ตาม

• รายได้หดตัวลง 18% YoY และ 3% QoQ เป็น 1.246 แสนล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ทรงตัว YoY และ QoQ อยู่ที่ 15%

แนวโน้มการเติบโตของอุปสงค์ยังเบาบาง

• คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/23 จะอ่อนตัวลง QoQ จากการขาดหายไปของรายได้เงินปันผลตามฤดูกาล ขณะที่ประเมินว่ากำไรปกติจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากปริมาณซีเมนต์ บรรจุภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ที่ปรับดีขึ้น แต่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่อ่อนแอจากการเติบโตด้านอุปสงค์จีนที่เบาบาง อุปทานส่วนเพิ่ม และราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะสูงขึ้นในครึ่งหลังปี 2023 อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของอัตรากำไร

• อย่างไรก็ดี เรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมปี 2024-25 เพราะสภาวะอุปทานล้นตลาดในกรอบ 5 ปี (2019-23) จะปิดฉากลง บวกกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก หลังผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่น้อยลงจะช่วยกระตุ้นส่วนต่างราคาปิโตรเคมีขึ้น ส่วนการเริ่มดำเนินงานโรงงานโพลีเมอร์ LSP แห่งใหม่ในเวียดนาม (1.4 ตันต่อปี) ภายในครึ่งหลังปี 2023 จะไปกระตุ้นกำลังการผลิตโพลีโอเลฟินส์ของ SCC ขึ้น 60% และช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายได้อีกแรง

คงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 341.0 บาท

เราคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 341.0 บาท คำนวณด้วยวิธี DCF (WACC 8.8%, TG 0%) อิง 13.0x PE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปี เราเล็งเห็นถึง downside risk จากโอกาสที่จะมีการปรับประมาณการกำไรหากปริมาณขายและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีไม่ฟื้นตัวภายในครึ่งหลังปี 2023 ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ 2.5 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 0.8% หากอิงจากราคาปิดล่าสุด โดยจะขึ้น XD วันที่ 9 ส.ค. 2023