Pi Financial ช่วยจัดพอร์ตลงทุนลดหย่อนภาษีปี 2024 แบ่งสัดส่วนลงทุน SSF อย่างไร ให้ตรงใจคุณ
Pi Financial Application ช่วยจัดพอร์ตลงทุนลดหย่อนภาษี แบ่งสัดส่วนลงทุน SSF อย่างไร ให้ตรงใจคุณ
การลงทุนในกองทุน SSF, RMF และ ThaiESG เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนไทย เนื่องจากนอกจากจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้แล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ทว่าในตลาดปัจจุบันมีกองทุน SSF, RMF และ ThaiESG จำนวนหลายร้อยกองทุน จึงเกิดคำถามว่า แล้วนักลงทุนอย่างเราควรจะเลือกลงทุนกองทุนอะไรบ้าง สัดส่วนเท่าไรดี
วันนี้ Pi Knowledge จัดทำพอร์ตลงทุนกองทุน SSF เพื่อลดหย่อนภาษีมาให้คุณเลือกลงทุนทั้งหมด 3 พอร์ต ในปี 2024 ตามสไตล์การลงทุนที่แตกต่างกัน โดยใช้กลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ที่ช่วย Balance พอร์ตการลงทุนของคุณให้ยืดหยุ่นกับทุกสภาวะตลาด แต่แตกต่างกันตามระดับความเสี่ยงที่รับได้
Pi SSF Recommended Portfolios
พอร์ต SSF สายเซฟ
- กลยุทธ์การลงทุน: เน้นลงทุนในตลาดเงินและตราสารหนี้ที่ความเสี่ยงต่ำ โดยให้สัดส่วนของการลงทุนในตลาดเงินและตราสารหนี้รวมกันสูงถึง 70% ในขณะที่กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลกอีก 30%
- เหมาะกับ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ไม่ชอบความผันผวน เน้นการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก แต่ยังคงได้ผลตอบแทนที่ชนะเงินฝาก
- KFGBRANSSF
- สัดส่วนการลงทุน 15%
- เน้นลงทุนให้หุ้นของบริษัทต่างๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก ที่ประสบผลสำเร็จหรือมีชื่อเสียง brand โดยพิจารณาจาก intangible assets เช่น การมีเครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก และการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ
- KT-HEALTHCARE-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 5%
- ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต โดย Life Sciences จะเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิต
- K-VIETNAM-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 5%
- ลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนามที่ดำเนินธุรกิจ ได้รับผลประโยชน์จากการ เติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเน้นลงทุนหุ้นเวียดนามชั้นนำ เช่น กลุ่มการเงิน และ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
- KT-INDIA-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 5%
- มุ่งเน้นการเติบโตของเงินลงทุนระยะยาว โดยลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน หรือตราสารที่คล้ายคลึงกันของบริษัทอินเดีย
- UGIS-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 45%
- เน้นการบริหารลงทุนเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ต การลงทุน มีการกระจายไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่หลากหลาย
- UOBSD-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 20%
- เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในเงินฝากธนาคาร
- KT-PROPERTY-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 5%
- เน้นลงทุนในหุ้นหรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้หลักจากการป็นเจ้าของบริหาร จัดการหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
พอร์ต SSF สายซอฟท์
- กลยุทธ์การลงทุน: กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำได้แก่ตลาดเงินและตราสารหนี้รวมกัน 50% ของพอร์ต ลงทุนในหุ้นทั่วโลกอีก 45% และกระจายการลงทุนอีก 5% ไปในอสังหาริมทรัพย์
- เหมาะกับ นักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี และต้องการได้รับผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมกัน โดยรับความเสี่ยงได้ระดับปานกลางขึ้นไป พร้อมที่จะกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้นทั่วโลก
- KKP GNP-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 22.5%
- เน้นลงทุนในหุ้นสามัญทั่วโลกของบริษัทที่มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของโลกในอนาคต
- KT-HEALTHCARE-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 7.5%
- ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต โดย Life Sciences จะเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิต
- K-VIETNAM-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 7.5%
- ลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนามที่ดำเนินธุรกิจ ได้รับผลประโยชน์จากการ เติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเน้นลงทุนหุ้นเวียดนามชั้นนำ เช่น กลุ่มการเงิน และ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
- KT-INDIA-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 7.5%
- มุ่งเน้นการเติบโตของเงินลงทุนระยะยาว โดยลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน หรือตราสารที่คล้ายคลึงกันของบริษัทอินเดีย
- UGIS-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 30%
- เน้นการบริหารลงทุนเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ต การลงทุน มีการกระจายไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่หลากหลาย
- UOBSD-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 15%
- เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในเงินฝากธนาคาร
- KT-PROPERTY-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 10%
- เน้นลงทุนในหุ้นหรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้หลักจากการป็นเจ้าของบริหาร จัดการหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
พอร์ต SSF สายซิ่ง
- กลยุทธ์การลงทุน: เน้นลงทุนในหุ้นในสัดส่วนสูงถึง 60% เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น ทั้งยังกระจายการลงทุนไปในอสังหาริมทรัพย์อีก 10% แต่ยังคงสัดส่วนการลงทุนในตลาดเงินและตราสารหนี้ 30% เพื่อป้องกันความผันผวนของตลาด
- เหมาะกับ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวจากตลาดหุ้นที่มีโอกาสเติบโตทั่วโลก
- K-CHANGE-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 30%
- ลงทุน ในหุ้น ทั่วโลกของบริษัทที่มีผลิตภณัฑ์และ/หรือ บริการที่ส่งผลกระทบเชิงบวก (Positive Impact) ต่อสังคมและหรือสิ่งแวดล้อม รวมถึงบริษัทต่างๆ ที่สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน
- KT-HEALTHCARE-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 10%
- ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต โดย Life Sciences จะเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิต
- K-VIETNAM-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 10%
- ลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนามที่ดำเนินธุรกิจ ได้รับผลประโยชน์จากการ เติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเน้นลงทุนหุ้นเวียดนามชั้นนำ เช่น กลุ่มการเงิน และ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
- KT-INDIA-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 10%
- มุ่งเน้นการเติบโตของเงินลงทุนระยะยาว โดยลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน หรือตราสารที่คล้ายคลึงกันของบริษัทอินเดีย
- UGIS-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 20%
- เน้นการบริหารลงทุนเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ต การลงทุน มีการกระจายไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่หลากหลาย
- UOBSD-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 10%
- เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในเงินฝากธนาคาร
- KT-PROPERTY-SSF
- สัดส่วนการลงทุน 10%
- เน้นลงทุนในหุ้นหรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้หลักจากการป็นเจ้าของบริหาร จัดการหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
ไม่ว่าจะกองทุน SSF/RMF/ThaiESG กองไหนในลิสต์ก็สามารถซื้อได้ที่ Pi Financial App ทั้งหมด เพราะที่ Pi มีกองทุนมากกว่า 1,800 กองทุนจาก 18 บลจ. ชั้นนำให้คุณได้เลือกลงทุนได้ในที่เดียว เริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีและเริ่มต้นลงทุนกองทุน SSF เลยวันนี้ที่ Pi Financial App
คำเตือนผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท