หุ้นเอเชียผงาด โอกาสเข้าลงทุนในเอเชียกับกองทุนแนะนำจาก Pi Financial

Published
Share this article:
banner image

หุ้นเอเชียผงาด โอกาสเข้าลงทุนในเอเชียกับกองทุนแนะนำจาก Pi Financial

หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ปรับลดดอกเบื้ย ถึง 0.5% ช่วงกลางเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ภูมิทัศน์การเงินของโลกก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ในระยะสั้นนี้ เราอาจเห็นการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินในฝั่งเอเชียอ่อนค่าลง ทำให้หุ้นเอเชียมีการปรับฐาน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้ในจังหวะที่ดี โดยเฉพาะในตลาดหุ้นเอเชียที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว

เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดเอเชีย Emerging Markets โอกาสจากวัฏจักรดอกเบี้ยสหรัฐฯ

ปัจจุบัน วัฏจักรดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแปลงจากการปรับลดดอกเบี้ยเกิดขึ้น ส่งผลให้ เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาด Emerging Markets (EM) ในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในภูมิภาคนี้

เน้นลงทุนในเวียดนามและอินเดีย: ตลาดที่เติบโตสูง

เวียดนามและอินเดียเป็นสองประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตสูง และคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ การเปลี่ยนแปลงของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ทั้งสองประเทศนี้เป็นที่ต้องการของนักลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในจีนอาจต้องระมัดระวัง เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนยังฟื้นตัวช้าและยังได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ

Pi Financial แนะนำกระจายสะสมกองทุนเอเชีย

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บล. พาย จำกัด (มหาชน) แนะนำให้นักลงทุนกระจายเงินลงทุนในกองทุนเอเชียที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างกองทุน โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ โดยมีกองทุนแนะนำ 4 กองทุนได้แก่

  1. K-ASIA: เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตสูงในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น จีน ไต้หวัน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น
  • บลจ. กสิกรไทย (KAsset)
  • ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): Templeton Asian Smaller Companies Fund
  • นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด หรือ เกือบทั้งหมด (Hedge)
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 1.28%
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Initial Minimum Buy): 500 บาท
  • รายละเอียดเพิ่มเติม
  1. KT-ASEAN: ลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีโอกาสเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย
  • บลจ. กรุงไทย (KTAM)
  • ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): JPMorgan Funds - ASEAN Equity Fund
  • นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (Hedge)
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 0.8%
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Initial Minimum Buy): 1,000 บาท
  • รายละเอียดเพิ่มเติม
  1. KT-INDIA: เน้นการลงทุนในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการขยายตัวของประชากรและเศรษฐกิจที่รวดเร็ว พร้อมรับประโยชน์จากนโยบายการปฏิรูปของรัฐบาล
  • บลจ. กรุงไทย (KTAM)
  • ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): Invesco India Equity Fund
  • นโยบายค่าเงิน: ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedge)
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 0.8%
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Initial Minimum Buy): 1,000 บาท
  • รายละเอียดเพิ่มเติม
  1. PRINCIPAL VNEQ: ลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • บลจ. พรินซิเพิล (Principal Asset Management)
  • ระดับความเสี่ยง: ระดับ 6
  • กองแม่ (Feeder Fund): -
  • นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (Hedge)
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 1.605%
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Initial Minimum Buy): 1,000 บาท
  • รายละเอียดเพิ่มเติม

ทำไมน่าลงทุนในกองทุนเอเชีย?

  • การเติบโตสูง: ตลาดเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความผันผวนในตลาดโลก การลงทุนในกองทุนที่เน้นภูมิภาคนี้จึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
  • กระจายความเสี่ยง: กองทุนเหล่านี้มีการกระจายการลงทุนในหลายประเทศและอุตสาหกรรม ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดเฉพาะตัว
  • ได้รับประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจ: ทั้งอินเดียและเวียดนามกำลังได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจและความต้องการสินค้าจากตลาดโลก

โปรโมชันพิเศษ!

ลงทุนกองทุน K-ASIA, KT-ASEAN, KT-INDIA, และ PRINCIPAL VNEQ วันนี้ที่ Pi Financial

  • ลงทุนครบ 20,000,000 – 39,999,999 บาท รับ iPhone 16 128 GB มูลค่า 29,900 บาท
  • ลงทุนครบ 40,000,000 บาทขึ้นไป รับ iPhone 16 Pro Max 512 GB มูลค่า 56,900 บาท

16 ก.ย. - 15 ธ.ค. 2567 เท่านั้น

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

อย่าพลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมจังหวะลงทุนที่เหมาะสมในช่วง FED ลดดอกเบี้ย ลงทุนกองทุนเอเชียเลยที่ Pi Financial

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited