This website use cookies to enhance your experience and providing the best service from us. You can learn more about our use of cookies from ourCookies Policy

เปิดสถิติตลาดหุ้นไทย หลังภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ หุ้นไหนร่วง หุ้นตัวไหนรอด

Published
Share this article:
banner image

เปิดสถิติตลาดหุ้นไทย หลังภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ หุ้นไหนร่วง หุ้นตัวไหนรอด

ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติหลายครั้งที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและจิตวิทยานักลงทุน ภัยธรรมชาติอย่างเหตุการณ์สึนามิในธันวาคม 2004, น้ำท่วมใหญ่ปี 2011 และล่าสุดคือแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2025 ทั้งหมดนี้ส่งผลให้มีการปรับตัวของดัชนี SET INDEX และการกระจายผลตอบแทนของหุ้นในตลาดที่แตกต่างกันไป Pi Knowledge จะมาสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้เห็นภาพรวมและแนวทางการลงทุนในสถานการณ์เช่นนี้

ภัยธรรมชาติและผลกระทบต่อ SET INDEX

1. เหตุการณ์สึนามิ (ธ.ค. 2004)

  • สภาวะตลาดหลังสึนามิ: หลังเหตุการณ์สึนามิ SET INDEX ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดที่ -2.2% แต่สามารถฟื้นตัวภายใน 5 วันทำการ ปิดตลาดด้วยการลดลงเพียง -0.9%

หุ้นที่มีผลตอบแทนดีและไม่ดีหลังสึนามิ

  • หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ได้แก่ BDMS, SCC, TU
  • หุ้นที่ผลตอบแทนเป็นลบชั้นนำ ได้แก่ MINT, BBL, KBANK

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลังสึนามิ

  1. อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลดลง จาก 6.6% YoY ใน 4Q04 เป็น 3.9% YoY ใน 1Q05
  2. นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ภัยธรรมชาติส่งผลกระทบกับมูลค่าเศรษฐกิจไทยราว 1.2 หมื่นล้านบาท (0.2% GDP)
  3. จำนวนของนักท่องเที่ยวลดลงในช่วง 1Q05 (-7% YoY)

2. เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ (2011)

  • สภาวะตลาดหลังน้ำท่วมใหญ่: น้ำท่วมใหญ่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2011 จนถึงจุดต่ำสุดของดัชนีในต้นเดือนตุลาคม ทำให้ SET INDEX ปรับตัวลดลงถึง 22% นับว่าเป็นภัยธรรมชาติที่กินเวลายาวนานและยืดเยื้อจึงส่งผลต่อ SET INDEX ค่อนข้างรุนแรง

หุ้นที่มีผลตอบแทนดีและไม่ดีหลังน้ำท่วมใหญ่:

  • หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ได้แก่ JMART (+20%), ADVANC (+19%), BDMS (+15%), BCH (+10%), GLOBAL (+9%), HMPRO (+8%)
  • หุ้นที่ผลตอบแทนเป็นลบชั้นนำ ได้แก่ IVL (-48%), AMATA (-39%), TTB (-37%), KTC (-33%)

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมใหญ่

  1. เศรษฐกิจ 4Q11 หดตัวลง (-4% YoY) ก่อนที่จะกลับมาฟื้นตัวเป็น 3% YoY ใน 1Q12
  2. หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (รวมถึงค้าปลีก) มักแสดงศักยภาพในการรอดในช่วงภัยพิบัติ

3. เหตุการณ์แผ่นดินไหว (28 มี.ค. 2025)

  • สถานการณ์: แผ่นดินไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน พบการพังทลายของอาคารในใจกลางเมืองแค่เพียง 1 อาคาร (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) และส่วนใหญ่เป็นรอยร้าวทั่วไป

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวปี 2025

  • อุปสงค์ (Demand) ในตลาดอาจลดลง จากความไม่มั่นใจ
  • ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเข้ามาน้อยลง แต่หากแผ่นดินไหวไม่เกิดซ้ำ สถานการณ์นักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้เหมือนกับช่วงน้ำท่วมในอดีต (นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 13% YoY แต่ค่อยๆ ฟื้นตัว)
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคสูญเสียความเชื่อมั่น จากความเสียหายของอาคารหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่พัฒนาโครงการคอนโดเป็นจำนวนมาก ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 8% ของ GDP เมื่อมีปัญหาจากอสังหาริมทรัพย์ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมจะมีขนาดจำกัด เนื่องจากภาคนี้คิดเป็นเพียง 5% ของ Market Capitalization ของ SET
  • หอการค้าประมาณการว่าแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐไทยประมาณ 0.025% หรือประมาณ 3-4 พันล้านบาท
  • Valuation หุ้นไทยที่มิได้แพงมาก สะท้อนผ่าน Earnings Yield Gap (+2SD)

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงภัยธรรมชาติ

1. หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลบวก (เชิง Sentiment)

  • กลุ่มโรงพยาบาล: ตัวอย่างหุ้นที่โดดเด่น เช่น BDMS และ BCH
  • กลุ่มวัสดุก่อสร้างและค้าปลีก: หุ้นอย่าง HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ SCCC
  • กลุ่มสื่อสาร: ตัวอย่างหุ้นเช่น ADVANC และ TRUE
  • กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง: หุ้นอย่าง CK และ STEC ซึ่งคาดว่าการประมูลงานในอนาคตจะลดการแข่งขันด้านราคาและเพิ่มความสำคัญในด้านเทคโนโลยีก่อสร้าง

2. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ

  • กลุ่มธนาคาร: ยกเว้นกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ
  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์: โดยเฉพาะหุ้นที่มีรายได้จากคอนโดฯ สูง เช่น ORI ในขณะที่หุ้นอื่น ๆ เช่น AP SPALI อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่า
  • กลุ่มท่องเที่ยว: แม้ผลกระทบจะค่อนข้างจำกัด (เช่น CENTEL, AOT) แต่หากราคาปรับตัวลง ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากสถิตินักท่องเที่ยวมักฟื้นตัวได้หลังภัยธรรมชาติ

บทสรุปและมุมมองอนาคตหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว

สรุปได้ว่า ภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อจิตวิทยานักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวม แต่ผลกระทบเหล่านี้มักเป็นระยะสั้นและมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัดส่วนจำกัดในเศรษฐกิจไทย สำหรับนักลงทุน แนวทางที่ดีที่สุดคือการประเมินผลกระทบทั้งในเชิงเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียน พร้อมระมัดระวังต่อจิตวิทยาตลาดที่อาจเกิดความเชื่อมั่นลดลงในช่วง
วิกฤต

คำแนะนำในการลงทุน

  • ติดตามสถานการณ์: ศึกษาผลกระทบของภัยธรรมชาติต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด
  • เลือกหุ้นที่แข็งแกร่ง: พิจารณาลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล, วัสดุก่อสร้าง, ค้าปลีก, สื่อสาร และรับเหมาก่อสร้างที่มีพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
  • ระมัดระวังในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ: เช่น กลุ่มธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ ควรเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของตลาดในช่วงวิกฤต

อย่าพลาดโอกาสลงทุนใน หุ้นไทย โดยเฉพาะในเวลาวิกฤต ที่หุ้น Valuation ถูก พื้นฐานดี น่าสะสมเป็นอย่างมาก เปิดบัญชีลงทุนผ่านแอป Pi Financial แล้วเริ่มต้นลงทุนกับ Pi เลย

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited