TU (BUY : Fair Price : Bt 17.60) : มองการเติบโตจะมาช่วง 2Q25 เป็นต้นไป

Published
Share this article:

**เรามองว่าผลประกอบการปี 25 ของ TU ยังเห็นการเติบโตได้ แต่ไม่มากนักเพราะได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 300-350 ล้านบาท เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิใหม่ที่ 5,012 ล้านบาท (+1%YoY) โดยทางผู้บริหารจะหันมาเน้นการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นด้วยการตั้งเป้าเติบโต 3-4% ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาหารแช่แข็งที่สิ้นสุดมาตรการ Right Sizing แล้ว หรือธุรกิจอาหารแปรรูปที่จะเน้นสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเองมากขึ้นโดยเฉพาะที่ยุโรป อย่างไรก็ตามการเติบโตดังกล่าวจะเริ่มเห็นในช่วง 2Q25 เป็นต้นไปเพราะในช่วง 1Q25 ยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัท ส่วน 4Q24 TU มีกำไรสุทธิ 1,213 ล้านบาท (-13%QoQ) **

4Q24 มีกำไรสุทธิ 1,213 ล้านบาท (-13%QoQ)

• TU มีกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 1,213 ล้านบาท (-13%QoQ) และพลิกจากที่ขาดทุนกว่า 17,000 ล้านบาทใน 4Q23 (เพราะมีการบันทึกค่าตัดจำหน่ายจำหน่ายเงินลงทุนใน Red Lobster) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 118 ล้านบาทและผลขาดทุนอื่น 33 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 1,129 ล้านบาท (-7%YoY, -24%QoQ) ได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าปรับโครงสร้างบริษัท

• รายได้ที่ 35,090 ล้านบาท ทรงตัวจากทั้ง 3Q24 และ 4Q23 โดยเทียบกับ 4Q23 จะเติบโตจากธุรกิจอาหารแปรรูป (Ambient seafood) แต่ลดลงในกลุ่มอาหารแช่แข็ง (Frozen Seafoods) เทียบกับ 3Q24 เติบโตในกลุ่มอาหารแช่แข็งซึ่งเป็นผลตามฤดูกาลที่มีความต้องการเพิ่มในช่วงเทศกาลปลายปีและอาหารสัตว์เลี้ยง

• กำไรขั้นต้นที่ 18.7% ดีขึ้นจาก 18% ใน 4Q23 ลดลงจาก 20% ใน 3Q24 เทียบกับปีก่อนดีขึ้นธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง ส่วนลดลงจาก 3Q24 เนื่องจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 4,929 ล้านบาท (+18%YoY,+5%QoQ) เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการตลาดและที่ปรึกษาในการปรับโครงสร้างที่เริ่มรับรู้มาตั้งแต่ 2Q24 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 157 ล้านบาท (-43%QoQ) และพลิกจากที่รับรู้ขาดทุน 400 ล้านบาทใน 4Q23

ปี 25 ผู้บริหารกลับมาเน้นรายได้ให้เติบโตเพิ่ม

ภาพรวมปี 25 ทางผู้บริหารตั้งเป้าเติบโต 3-4% โดยมองว่าธุรกิจอาหารแช่แข็งจะเริ่มกลับมาเห็นการเติบโตอีกครั้งหลังจากสิ้นสุดมาตรการ Right Sizing ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 23 รวมถึงผลดีของธุรกิจอาหารกุ้งเติบโตดี ส่วนธุรกิจอื่นอย่างอาหารแปรรูปจะมีการใช้งบการตลาดเพิ่มเพื่อสร้างยอดขายในสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง ด้านธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่แผนการปรับบริษัทภายใต้โครงการ Sonar และ Tailwind จะเริ่มเห็นผลดีบ้างแล้ว โดยปี 25 คาดว่าโครงการ Sonar จะลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 15 ล้านเหรียญฯ ส่วน Tailwind จะเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานได้ประมาณ 17 ล้านเหรียญฯ

คงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมแต่รอหลัง 1Q25 จะดีกว่า

TU มีการประมาณการภาษีจ่ายในปี 25 ว่าจะต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 300-350 ล้านบาท ทำให้เรามีการปรับประมาณการกำไรทั้งปีมาอยู่ที่ 5,012 ล้านบาท (+1%YoY) โดยมองว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวได้ชัดในช่วง 2Q25 เป็นต้นไป เพราะช่วง 1Q25 จะโดนผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบริษัทมากดดัน (ปี 24 รับรู้ 2Q24) ดังนั้นระยะสั้นอาจจะรอจังหวะเข้าสะสมได้โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 17.6 บาท (16XPER’25E) TU ประกาศจ่ายปันผล 2H24 0.36 บาท/หุ้น XD 28 ก.พ. จ่าย 25 เม.ย.