TOP (HOLD : Fair Price : Bt 40.00) : ผลประกอบดีขึ้นในไตรมาสถัดไป แต่รอความชัดเจน CFP

Published
Share this article:

เราปรับคำแนะนำเป็น “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 40 บาท (เดิม 75 บาท)โครงการ CFP ยังคงอยู่ในระหว่างการประเมินผลกระทบ ความชัดเจนน่าจะมากขึ้นในต้นปี 25 เป็นปัจจัยกดดัน เราปรับลดประมาณการปี 24/25 ลง -37%/-33% ตามลำดับ เนื่องจากปรับขาดทุนจาก Stock loss มากขึ้น และนำโครงการ CFP ออกจากประมาณการของเราในปี 25 บริษัทขาดทุนสุทธิงวด 3Q24 ที่ 4.2 พันล้านบาท ใกล้เคียงเราคาด โดนกดดันจาก Stock loss ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่วน TOP GRM อยู่ที่ 3.7 US$/bbl (-70%YoY, -3%QoQ) แม้ว่ามีอุปสงค์จากฤดูกาลท่องเที่ยวของสหรัฐฯหนุน แต่ถูกกดดันโดยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง แนวโน้มไตรมาส 4Q24-1Q25 คาดค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ณ ระดับราคาปัจจุบันคิดเป็น PBV’24 อยู่ที่ 0.55 เท่า หรือคิดเป็นระดับ -1.75SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี

ผลประกอบการ 3Q24 โดนกระทบจากราคาน้ำมัน

• รายงานขาดทุนประจำงวด 3Q24 ที่ 4.2 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับเราและ อุตสาหกรรมคาด พลิกจากกำไรงวด 3Q23/4Q24 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท และ 5.5 พันล้านบาท มีรายการพิเศษหลักๆคือกำไรจากอัตราเเลกเปลี่ยน 1.6 พันล้านบาท และขาดทุน Stock รวม NRV 7.5 พันล้านบาท ทำให้กำไร 9M คิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรใหม่ของเราอัพเดทโครงการ CFP

• โครงการพลังงานสะอาด (CFP: Clean Fuel Project) มีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจากทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต โดย UJV (Samsung, Petrofac และ Saipem) เป็นผู้รับเหมาหลัก ทางผู้รับเหมาหลักได้จ้างผู้รับเหมาช่วง ณ ปัจจุบัน การเจรจาระหว่างผู้รับเหมาช่วงและผู้รับเหมาหลักยังคงดำเนินต่อไป

• ยังคงอยู่ในระหว่างการประเมินผลกระทบ ความชัดเจนน่าจะมากขึ้นในต้นปี 2025 อาจจะทำให้โปรเจ็คมีการ delay เนื่องจากคนงานลดลง และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ (เราได้นำประมาณการ CFP ออกจากสมมติฐาน)

• สํญญากับ EPC มีวงเงินค้ำประกันมูลค่า 10% ของมูลค่าสัญญา หาก EPC มีการทำผิดเงื่อนไข ทาง TOP ใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุด

ปรับประมาณการกำไรลงในปี 24/25 ไตรมาส 4 ฟื้นตัวตามฤดูกาล

เราปรับลดประมาณการปี 24/25 ลง -37%/-33% เป็น 9.3 พันล้านบาท และ 1.2 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากปรับขาดทุนจาก Stock loss มากขึ้น ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และนำโครงการ CFP ออกจากประมาณการของเราในปี 25 หากนับเฉพาะผลประกอบการปกติยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยอุปสงค์ของน้ำมันเบนซินจากฝั่งสหรัฐ ยังคงเติบโตตามเศรษฐกิจ และน้ำมันอากาศยานที่อุปสงค์ทั่วโลกยังคงเติบโต ฝั่งปิโตรเคมีทั้ง BZ และ PX มีอุปสงค์ส่วนเพิ่มและอุปทานส่วนเพิ่มใกล้เคียงกันในปีถัดไป แนวโน้มไตรมาส 4Q24-1Q25 คาดค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล หนุนจากทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทาน โดยฝั่งอุปสงค์ ได้รับอานิสงค์จากฤดูหนาวในยุโรปและฤดูกาลท่องเที่ยวฝั่งเอเชีย หนุนอุปสงค์น้ำมันเตาและน้ำมันอากาศยานตามลำดับ ส่วนฝั่งอุปทาน โรงกลั่นในเอเชียปิดซ่อมบำรุงในช่วงดังกล่าว

**ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" **

ที่มูลค่าพื้นฐาน 40 บาท (เดิม 75 บาท) คำนวณด้วย PBV ที่ 0.55x (-1.75SD) ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี สะท้อนความสามารถในการแข่งขันที่ถูกเลื่อนออกไปและความไม่ชัดเจน จากโครงการ CFP โดยเราคาดว่าการอุตสาหกรรมฟื้นตัวเล็กน้อยในปี 25 พร้อมทั้งอัตราเงินปันผลปี 24-25E ที่ 4%, 5% ตามลำดับ