TOP (HOLD : Fair Price : Bt 27.50) : อุปสงค์ชะลอตัว รอรายละเอียด CFP ใน 3Q24

Published
Share this article:

เราปรับลดคำแนะนำเป็น ”ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 27.5 บาท (เดิม 29 บาท) โดยมีมุมมองเป็นลบกับผลประกอบการ เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจและภาษีการค้า (การเติบโตอุปสงค์ของน้ำมันดิบ มี Correlation กับ การเติบโตของ GDP โลกที่ 0.6x) และอุปทานจากโรงกลั่นใหม่ โดยเฉพาะ เบนซินและดีเซล โดยปรับลดกำไรปี25/26 ลง 20/2% ตามลำดับ หักล้างบางส่วนกับ SBM ที่กลับมาดำเนินการปกติช่วง 3Q25 ส่วนโครงการ CFP ยังคงอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย รอความชัดเจนในงวด 3Q25 ส่วนผลประกอบในงวด 1Q25 โดยกดดันจากค่าการกลั่นที่ลดลง แม้ว่าชดเชยบางส่วนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ราคาปัจจุบัน คิดเป็น PBV’25 อยู่ที่ 0.48 เท่า หรือคิดเป็นระดับ -1.875SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี บริษัทประกาศปันผล 0.7 บาทต่อหุ้น (Div 2.7%) ขึ้น X.D 27 ก.พ. 2025

ประชุมนักวิเคราะห์

• โครงการ CFP ได้รับการโหวตอนุมัติถึง 89.7% ในการเพิ่มเงินลงทุน 6.3 หมื่นล้านบาทในการประชุม EGM เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2025 ที่ผ่านมา โดยขั้นตอนอยู่ในการบังคับใช้ทางกฎหมาย ทางบริษัทคาดว่าจะมีความคืบหน้าในโครงการดังกล่าวในช่วง 3Q25 โดยแผนการ Funding ยังคงเป็น Perp Bond มูลค่า 1 – 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (รวมอยู่ในประมาณการเราแล้ว)

• กลับมาเริ่มดำเนินการทดสอบทุ่นผูกเรือกลางทะเล SBM ในช่วงการเดือนกลางเดือนที่ผ่านมา บริษัทคาดว่า สามารถกลับมาดำเนินการปกติอีกครั้งในช่วง 3Q25 ซึ่งช่วยลดต้นทุนทั้งปี Ship-to-Ship cost 0.5US$/bbl

• บริษัทคาดว่าความผันผวนของนโยบาย Trump กดดันอุปสงค์ (-0.3 MBD) อีกทั้งสร้างความไม่แน่นอนให้กับอุปทานจากประเทศรัสเซียอิหร่าน (-0.8 MBD) ส่วนอุปทานโรงกลั่น Dangote จากประเทศ Nigeria เร่งกำลังการผลิตในช่วง 1H25
70-80%

แนวโน้ม FY2025 และ 1Q25 โดนกดดันเพิ่มเติมจากฝั่งอุปสงค์

เราปรับลดกำไรปี25/26 ลง 20/2% ตามลำดับ เนื่องจาก 1.Spread ของดีเซลและเบนซินที่ต่ำกว่าคาด จากอุปทานโรงกลั่น Dangote ที่เพิ่มกำลังการผลิตใน 1H25 2.อุปสงค์ที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจและภาษีการค้า (การเติบโตอุปสงค์ของน้ำมันดิบ มี Correlation กับ การเติบโตของ GDP โลกที่ 0.6x) โดย Singapore GRM 1Q24 ที่ 3.4 US$/bbl เทียบกับ 4Q24 /1Q24 ที่ 5/ 7.3 US$/bbl ตามลำดับ ลดลดเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสก่อนและปีก่อน กดดันผลประกอบการประจำไตรมาส 1 หักล้างกับราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวขึ้นหนุนกำไรจากสต็อกน้ำมันดิบ 78.1 US$/bbl เทียบกับ 73.6 US$/bbl ในไตรมาสก่อน

ปรับลดคำแนะนำเป็น "ถือ" จากคาดการณ์กำไรที่ลดลง

ที่มูลค่าพื้นฐาน 27.5 บาท (เดิม 29 บาท) คำนวณด้วย PBV ที่ 0.52x (-1.75SD) ของค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง สะท้อนความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงและความไม่ชัดเจนของโครงการ CFP ไปพอสมควร ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น PBV’25 อยู่ที่ 0.48 เท่า หรือคิดเป็นระดับ -1.875SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี ส่วนมูลค่าตามบัญชีที่นำโครงการ CFP ออก (Adj. Book value) อยู่ที่ 53.1 บาทต่อหุ้น บริษัทประกาศปันผล 0.7 บาทต่อหุ้น (Div 2.7%) ขึ้น X.D 27 ก.พ. 2025 แนะติดตามความคืบหน้าโครงการ CFP ในงวด 3Q25 หากมีความชัดเจนเป็นปัจจัยอักทั้งการกลับมาดำเนินการ SBM ช่วยลดต้นทุนในไตรมาสดังกล่าวเป็นต้นไป

Sensitivity Analysis

  • Brent -1US$/bbl -> -0.2 bt/share

  • Singapore GRM -1US$/bbl -> -1.3 bt/share

  • Delay CFP 6 Month -> 3 bt/share