TISCO (HOLD : Fair Price : Bt 94.00) : งบดุลอ่อนแอกว่าคาด แต่เงินปันผลสูง

Published
15 July 2024
Share this article:

**เราคงคำแนะนำ "ถือ" เพื่อรับเงินปันผล โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 7.5% ในปี 2024 แต่ได้ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 94 บาทจากการปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลง 4-7% ในปี 2024-26 หลังจากมีมุมมองต่อคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอกว่าคาด โดยเราได้ปรับเพิ่ม Credit cost สูงขึ้น และปรับลดการเติบโตสินเชื่อลง ทำให้เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะลดลง 6.8% และลดต่อเนื่อง 2.5% ในปี 2025 ก่อนที่กำไรจะฟื้นตัวขึ้น 3.2% ในปี 2026 อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงาน อาจกลับมาขยายตัวได้เร็วกว่าคาดได้หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศ สำหรับใน 2Q24 กำไรสุทธิออกมาตามคาดที่ 1.75 พันล้านบาท (-5.7% YoY, +0.9% QoQ) คุณภาพงบดุลอ่อนแอกว่าคาด โดย NPL ratio ปรับขึ้นที่ 2.4% และ Coverage ratio ลดลงที่ 162.7% **

การประชุมนักวิเคราะห์

• เรามีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยหลังการประชุมนักวิเคราะห์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวเปาะบางส่งผลให้คุณภาพสินเชื่ออ่อนแอกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อรายย่อย และผลขาดทุนรถยึดสูงขึ้นกว่าในอดีต โดย TISCO ปรับเพิ่ม Credit cost เป็น 50-70 bps ในปี 2024 (จากเดิม 50 bps) และเพิ่มเป็น 100 bps ในปี 2025

• แม้หนี้เสียของสินเชื่อจำนำทะเบียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่อัตราผลตอบแทนสุทธิ และ ROE ยังคงสูงกว่าการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ขณะที่การเปิดสาขาใหม่ของ “สมหวัง เงินสั่งได้” ยังทำต่อเนื่อง แต่ปรับกลยุทธ์ให้พนักงานทำหน้าที่ติดตามหนี้ด้วยเพื่อควบคุมคุณภาพสินเชื่อ

• TISCO มีพอร์ตสินเชื่อไฟฟ้า (EV Car) ราว 10-12% ของสินเชื่อรวม โดยเน้นแบรด์ที่มีการให้บริการหลังการขาย และกลุ่มลูกค้ารายได้สูงเพื่อลดความเสี่ยงหนี้เสีย

• มาตรการ Responsible lending ที่มีผลตั้งแต่ต้นปี 2024 มีส่วนช่วยให้หนี้เสียเพิ่มขึ้นชะลอลง แต่ไม่ได้มีผลอย่างมีนัยกับ TISCO

• ต้นทุนการเงินทรงตัวมากขึ้นใน 2H24 โดยคาดว่าต้นทุนการเงินอาจปรับขึ้นอีก 1 ไตรมาส และหากอัตราดอกเบี้ยสามารถปรับลดลงได้ในอนาคตจะเป็น Upside สำหรับการปรับขึ้นของ NIM• ระดับ Tier 1 capital ที่ 16.3% ใน 2Q24 สูงกว่าเกณฑ์ขึ้นต่ำมาก TISCO จะสามารถจ่ายเงินปันผลสูงต่อเนื่อง แต่จะไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลพิเศษ

**คาดกำไรสุทธิปี 2024-25 ลดลง และกลับมาฟื้นตัวในปี 2026 **

• แม้ใน 2Q24 NIM ดีกว่าคาด แต่คุณภาพสินเชื่ออ่อนแอ เราปรับ Credit cost เพิ่มเป็น 60 bps (เดิม 50 bps) และคงสมมติฐานที่ 100 bps ในปี 2025-26 นอกจากนี้ ได้ปรับลดการขยายสินเชื่อเหลือ 0.3%/2%/2.5% (เดิม 3.9%/3%/3%) ในปี 2024-26 ดังนั้น เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลง 4-7% ในปี 2024-26

• เราคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับลดลง 6.8% ในปี 2024 และปรับลดลงต่อเนื่อง 2.5% ในปี 2025 ก่อนจะกลับมาเติบโต 3.2% ในปี 2026

คงคำแนะนำ "ถือ" ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 94 บาท

เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 94 บาท จาก 99 บาท ประเมินมูลค่าด้วยวิธี GGM (ROE 15.2%, Terminal growth 2%) อิง 1.7x PBV’24E เท่ากับค่าเฉลี่ย 10 ปี (2014-2023)