TIDLOR (BUY : Fair Price : Bt 20.00) : เข้าสู่โหมดการเร่งตัวของกำไร

Published
Share this article:

**แนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 20.00 บาท แม้ต้องแลกมาด้วยการชะลอตัวของสินเชื่อในระยะสั้น แต่การควบคุมหนี้เสียที่ดีขึ้นได้ส่งผลบวกในระยะยาว ทั้งภาระสำรองหนี้ฯ ชะลอตัว และการเติบโตของกำไรดีขึ้นต่อเนื่อง เราคาดว่า ROE เป็นขาขึ้นในปี 2025-26 ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างบริษัทเป็น Holding company ทำให้การบริหารมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และลดแรงกดันจากการออกหุ้นเพิ่มทุน และผลกระทบจาก Dilution effect คาลตัวลง เราคาดว่า TIDLOR มีกำไรสุทธิเติบโตสูงที่ 12.2%/16.3%/14.8% ในปี 2024-26 (2023: +4.1%) และเติบโตแกร่ง 14.5% CAGR (2024-26) ขณะที่สินเชื่อที่จะกลับมาขยายตัว และสำรองหนี้ฯ ลดลงทำให้คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q24 จะเติบโต YoY และ QoQ ด้านผลการดำเนินงานใน 3Q24 กำไรสุทธิออกมาที่ 1 พันล้านบาท (-1.6% YoY, -9.2% QoQ) ขณะที่ NPL ratio ทรงตัวที่ 1.9% และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 230.6% **

การประชุมนักวิเคราะห์

• กลยุทธ์การเน้นควบคุมคุณภาพสินเชื่อทำให้สินเชื่อขยายตัวชะลอตัวใน 3Q แต่สามารถบรรลุเป้าหมายควบคุมหนี้เสียได้ดีขึ้น คุณภาพสินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมาย แนวโน้มหนี้เสียในเดือน ต.ค.-พ.ย. ลดลง ทำให้แนวโน้มสำรองหนี้ฯ ลดลง

• TIDLOR คาดผลการดำเนินงานใน 4Q24 แนวโน้มสดใสขึ้น สินเชื่อกลับมาขยายตัว คุณภาพสินเชื่อควบคุมได้ตามเป้าหมายไม่เกิน 2% สิ้นปี 2024 และกระบวนการ Balance sheet cleanup แล้วเสร็จทำให้การตัดจำหน่ายหนี้สูญฯ ลดลง ส่งผลให้ credit cost ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับ 3Q

• มาตรการแจกเงิน 10000 บาท มีผลกระทบระยะสั้น และช่วยให้ลูกหนี้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และความสามารถการชำระหนี้สูงขึ้น

• แม้รายได้ค่าธรรมเนียมใน 3Q ชะลอตัว แต่เมื่อแนวโน้มสินเชื่อกลับมาขยายตัวใน 4Q ทำให้แนวโน้มธุรกิจประกันภัยยังแข็งแกร่ง

• แผนการปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จได้ตามแผน ทำให้การบริหารงานจะคล่องตัวขึ้น และมีความจำเป็นลดลงในการให้หุ้นปันผล และผลกระทบจาก dilution effect ลดลงในอนาคต

**NIM ดีขึ้น และควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานดีขึ้นในปี 2025-26 **

• แม้สินเชื่อในปี 2024 อ่อนแอกว่าคาด เพราะเน้นควบคุมคุณภาพสินเชื่อ แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2024 จะเติบโตดีขึ้นที่ 12.6% (2023: +4.1%)

• อัตราผลตอบแทนสินเชื่อดีกว่าคาด และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น เราปรับเพิ่มกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2-4% ในปี 2025-26 และคาดว่ากำไรสุทธิเติบโตที่ 16.4%/14.8% ในปี 2025-26 และเติบโตเฉลี่ย 14.5% CAGR (2024-26) และ ROE เพิ่มเป็น 14.1%/14.5%14.8% ในปี 2024-26 สูงขึ้นเทียบกับในปี 2023

แนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 20.00 บาท

ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 20.00 บาท จากเดิม 18.30 บาท สะท้อนมุมมองบวกต่อกำไรที่เติบโตดีขึ้นในปี 2025-26 คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 14.5%, TG 5%) อิงจาก 1.6x PBV’25E และ 11.7x PE’25E