TIDLOR (BUY : Fair Price : Bt 19.30) : งบดุลดีขึ้นหนุนผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ ลง
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 19.30 บาท เรามองว่าผลการดำเนินงานใน 4Q24 ออกมาแข็งแกร่ง และงบดุลดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิที่ 1 พันล้านบาท (+15.9% YoY, +5.4% QoQ) ด้าน NPL ratio ลดลงที่ 1.8% และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 242.7% ทั้งนี้ เรามีความเห็นสอดคล้องในเชิงกลยุทธิกับ TIDLOR เรื่องการเติบโตอย่างมีคุณภาพในปี 2025 เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอน ขณะที่ต้นทุนการเงินมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องใน 1H25 ทำให้มีแรงกดดันต่อ NIM สูงกว่าที่คาดไว้ เราได้ปรับลดคาดการกำไรสุทธิลง แต่ยังคงคาดว่ากำไรสุทธิจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง 10.8%/11.8% ในปี 2025-26 หนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อระดับปานกลาง และการควบคุมหนี้เสียที่ดีขึ้น ทำให้ Credit costs มีแนวโน้มลดลงได้ในปี 2025-26 ขณะที่ ROE คาดมีแนวโน้มปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 14.5%-14.6% ในปี 2025-26
การประชุมนักวิเคราะห์
• ภาวะเศรษฐิกจที่เปาะบาง กลยุทธ์การเติบโตในปี 2025 ยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ และคัดสรรลูกค้าที่มีคุณภาพ เน้นการเติบโตสินเชื่อจำนำทะเบียนมากกว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเก่า
• TIDLOR ไม่มีการเปิดเผยเป้าหมายการเงินในปี 2025 เนื่องจากมองว่าต้องรอความชัดเจนจากผลกระทบของโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" อย่างไรก็ดี บริษัทมั่นใจงบดุลแข็งแกร่ง การติดตามเก็บหนี้ทำได้ดีขึ้น แนวโน้มกำไรสามารถปรับสูงขึ้นในปี 2025 และมีแผนการเปิดสาขาใหม่ 100-200 แห่ง อย่างไรก็ดี คาดว่าข้อมูลจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1Q25
• แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น ติดล้อ โฮลดิ้งส์ บริษัทคาดว่ากระบวนการการแลกหุ้น (Tender Offer) จะเกิดขึ้นได้ภายใน 1H25
• ธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 แต่อาจเป็นการเติบโตชะลอตัวลง เพราะฐานที่สูงขึ้น
• ใน 1Q24 แนวโน้มการขอสินเชื่อยังสูง แต่บริษัทยังเน้นคัดสรรลูกค้าอย่างระมัดระวัง ขณะที่ต้นทุนการเงินยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก 10-15 bps ใน 1H25 และทรงตัวได้ใน 2H25
**ปรับลดแนวโน้มการเติบโตสะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่เปาะบาง **
• เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลง 5-8% ในปี 2025-26 สะท้อน (1) ปรับลดการขยายสินเชื่อลงเหลือ 6.5%/6.1% (จากเดิม 10.6%/9.2%) และ (2) ปรับลดสมมติฐาน NIM ลง 5 bps เหลือ 15.56%/15.66% ดังนั้น เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้เดิมเหลือ 10.8%/11.8% ในปี 2025-26
• ปัจจัยหลักสนับสนุนการเติบโตมาจากที่ TIDLOR ควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดีขึ้น ทำให้มองว่าสามารถปรับลด Credit cost ลงได้ โดยตั้งสมมติฐานที่ 320 bps/310 bps ในปี 2025-26 และทุก ๆ 10 bps ของ Credit cost ที่ลดลงอาจส่งผลต่อกำไรปรับสูงขึ้นจากประมาณการของเราราว 2% และ ROE เพิ่มขึ้นราว 30 bps
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 19.30 บาท
คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 19.30 บาท จากเดิม 20 บาท สะท้อนแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลง คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 14.5%, TG 5%) อิงจาก 1.65x PBV’25E และ 12x PE’25E