TFM (BUY : Fair Price : Bt 13.80) : 4Q24 กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท
TFM รายงานกำไรสุทธิงวด 4Q24 ยังรักษาระดับ151 ล้านบาทต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนได้ (+918%YoY) ได้รับผลดีจากการเติบโตของอาหารกุ้งที่ในช่วงดังกล่าวเกษตรกรมีการเลี้ยงกุ้งเพิ่มหลังราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับแนวโน้มในปี 25 TFM ยังมองว่าผลผลิตไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากราคากุ้งที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเน้นประเทศเวียดนามมากขึ้นเพราะมีปริมาณผลผลิตกุ้งมากกว่าไทย ส่วนที่อินโดนีเซียยังคงคาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องเช่นกัน โดยเราปรับกำไรปี 25 ขึ้นจากเดิมเป็น 563 ล้านบาท (+5%YoY) ยังคงเติบโตได้แม้จะมีอัตราภาษีจ่ายจะปรับขึ้นเป็น 11% จากเดิม 1% เพราะมีการรับภาระภาษีจากบริษัทแม่เข้ามา รวมแล้วเราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดย TFM ประกาศจ่ายเงินปันผล 2H24 อีก 0.77 บาท/หุ้น (รวมทั้งปี 1.07 บาท/หุ้น) XD 27 ก.พ. จ่าย 10 เม.ย.
**4Q24 กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท (+918%YoY) **
• TFM มีกำไรสุทธิงวด 4Q24 ที่ 151 ล้านบาท ทรงตัวจาก 3Q24 และเพิ่มขึ้นถึง 918%YoY หากไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นผลขาดทุน5 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 156 ล้านบาท (+366%YoY,-11%QoQ) โดยกำไรที่โตจากปีก่อนได้รับผลดีจากอาหารกุ้งที่เพิ่มขึ้นส่วนการลดลงจาก 3Q24 สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น
• รายได้ที่ 1,429 ล้านบาท (+12%YoY,+3%QoQ) เทียบกับปีก่อนเติบโตหลักยังคงมาจากธุรกิจอาหารกุ้งที่อินโดนีเซีย (+115%YoY) รวมกับธุรกิจอาหารกุ้งที่ไทยที่ได้รับผลดีจากราคากุ้งที่สูงจึงดึงดูดให้เกษตรกรมีการเลี้ยงกุ้งเพิ่มขึ้น (ผลผลิตกุ้งเพิ่มถึง 15%YoY) ส่วนเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นในส่วนของธุรกิจกุ้งในประเทศ
• กำไรขั้นต้นที่ 20.5% ดีขึ้นจาก 9.7% ใน 4Q23 และ 19.2% ใน 3Q24 ยังคงได้รับผลดีจากต้นทุนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 146 ล้านบาท (+39%YoY, +32%QoQ) เพิ่มมากตามรายได้และค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงานที่บันทึกเข้ามาเพิ่มในไตรมาส 4
ปี 25 นอกจากอินโดนีเซียที่โตต่อ ยังหาตลาดส่งออกใหม่เพิ่ม
สำหรับปี 25 ในแง่ธุรกิจกุ้งในประเทศคาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากผลดีของราคากุ้งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อน (จากเฉลี่ย 167 บาท/กก. ใน 4Q24 เป็น 171 บาท/กก. ในเดือน ม.ค. 25) นอกจากนี้ยังมองว่าธุรกิจอาหารปลาจะมีการเติบโตขึ้นเช่นกันทั้งในส่วนของปลากระพงที่ราคาปรับขึ้นเช่นกัน รวมถึงปลาทับทิมเป็นต้น ส่วนที่อินโดนีเซียคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มเช่นกัน ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีจะมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ ทำให้ในช่วงปลายปีอาจจะมีการขยายการลงทุนเพิ่มสำหรับการเติบโตด้านอื่นยังคงมองหาการส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะที่เวียดนามที่มีผลผลิตกุ้งมากกว่าไทยกว่าเท่าตัว (มองพื้นที่เป้าหมายที่มีการผลิต 650,000 ตัน เทียบกับไทยที่มีผลผลิต 250,000 ตันในปี 24) ซึ่งมีการหาพันธมิตรกับผู้ประกอบการท้องถิ่นไว้แล้ว
ปรับกำไรปี 25 เพิ่ม ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
เราปรับกำไรปี 25 ขึ้นจากเดิม 4% มาอยู่ที่ 563 ล้านบาท (+5%YoY) แม้จะถูกกดดันจากอัตราภาษีที่คาดว่าจะจ่ายที่ระดับ 11% จากเดิม 1% หลังจากต้องรับรู้ภาระภาษีจากบริษัทแม่มาเพิ่ม แต่ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะยังสูงถึงระดับ 19% เข้ามาชดเชยแรงกดดันดังกล่าวได้ สำหรับคำแนะนำการลงทุน ด้วยผลประกอบการที่คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตต่อโดยเฉพาะในช่วง 1Q25 เมื่อเทียบกับ 1Q24 รวมถึงเงินปันผลที่ TFM ประกาศจ่าย 0.77 บาท/หุ้น XD 27 ก.พ. จ่าย 10 เม.ย. (รวมทั้งปีจ่าย 1.07 บาท/หุ้น) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสม (ก่อนแตกพาร์) ได้ใหม่ที่ 13.8บาท (2.5XPBV’25E)