STANLY (HOLD : Fair Price : Bt 207.00) : FY3Q25 ยังอยู่ในช่วงปรับปรุง
**เรายังคงแนะนำเดิมคือ “ถือ” ในระยะยาวเพราะยังมองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังมีโอกาสฟื้นตัวในอนาคต หลังจากผู้ผลิตจากญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวเพื่อให้แข่งขันกับผู้ประกอบการจากจีนมากขึ้น รวมถึงหากเศรษฐกิจฟื้นตัวจะทำให้ตลาดในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ด้านผู้ประกอบการจากจีนเริ่มมีการเข้ามาเจรจาเพิ่มบ้างแล้ว ขณะที่การปรับปรุงการผลิตยังคงเดินอย่างต่อเนื่องตลอดปี 25 นี้ ซึ่งเริ่มเห็นผลดีอย่างการที่ยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นตันให้ยังคงอยู่ในระดับ 19% ได้ในช่วง FY3Q25 แม้ในแง่รายได้จะปรับตัวลดลงตามสภาพอุตสาหกรรมก็ตาม โดยเราคาดกำไรสุทธิงวด FY3Q25 ที่ 321 ล้านบาท (-28%YoY,-2%QoQ) โดยคาดรายได้อยู่ที่ 2,996 ล้านบาท (-17%YoY, -7%QoQ) ลดลงตามภาวะอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง **
**คาด FY3Q25 กำไรสุทธิ 321 ล้านบาท (-28%YoY,-2%QoQ) **
• เราคาดว่า STANLY จะมีกำไรสุทธิงวด FY3Q25 (ต.ค.-ธ.ค. 24) อยู่ที่ 321 ล้านบาท (-28%YoY,-2%QoQ) ถ้าดูเฉพาะกำไรปกติจะลดลง 47%QoQ เพราะ FY2Q25 มีค่าใช้จ่ายในการควบรวมโรงงานเข้ามากว่า 280 ล้านบาท โดยกำไรที่ลดลงเป็นผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง (ยอดผลิตรถยนต์ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 24 ลดลงกว่า 27%YoY ขณะที่หากเทียบค่าเฉลี่ยการผลิตรายเดือนในช่วงดังกล่าวกับช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. จะลดลง 3%
• รายได้คาดที่ 2,996 ล้านบาท (-17%YoY,-7%QoQ) ในไตรมาสนี้มีคำสั่งซื้อใหม่คือชุดไฟรถแทรคเตอร์ของ KUBOTA เข้ามาเพิ่ม
• กำไรขั้นต้นคาดที่ 19.5% ดีขึ้นจาก 19.2% ใน FY3Q24 แต่ลดลงจาก 21.3% ใน FY2Q25 เป็นผลดีจากการลดค่าใช้จ่ายจากการควบโรงงานแต่ค่าใช้จ่ายบางส่วนมีการย้ายไปบันทึกในค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทำให้รายการดังกล่าวปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 320 ล้านบาท (+12%YoY,+9%QoQ)
• ไตรมาสนี้ไม่มีเงินปันผลรับเข้ามาเหมือน FY2Q25 (ประมาณ 127 ล้านบาท) รวมแล้วในช่วง FY9M25 STANLY มีกำไรสุทธิ 956 ล้านบาท (-24%YoY) แต่มีกำไรปกติ 1,259 ล้านบาท (+1%YoY)
**ภาพอุตสาหกรรมยังไม่ชัดเจน **
ภาพรวมแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงไม่ชัดเจนว่าในปีปฏิทิน 25 จะเป็นเช่นไร หลังจากเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงจากการเข้ามาของประธานาธิบดีทรัมป์ อย่างไรก็ตามเรามองว่าด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่คาดว่าจะทยอยออกมาตลอดทั้งปี จะช่วยให้ตัวเลขอุตสาหกรรมไม่ลดลงไปมากกว่าเดิมนัก รวมถึงการที่รัฐบาลมีแผนให้การสนับสนุนรถยนต์พลังงาน Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ผลิตจากญี่ปุ่นที่ยังคงใช้ไทยเป็นฐานการผลิตต่อ สำหรับผู้ผลิตจากจีนเริ่มมีความคืบหน้าบ้างแล้วจากการที่ผู้ผลิตที่มีโรงงานในไทยมีการมาเยี่ยมชมโรงงาน ซึ่งเราจะต้องติดตามต่อไปว่าสุดท้ายแล้วจะมีการสั่งซื้อกับทาง STANLY หรือไม่
แนะนำลงทุนระยะกลาง-ยาว
เรายังมีมุมมองที่ดีกับ STANLY เพราะเป็นผู้นำในสินค้าชุดระบบให้แสงสว่างของยานยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกประเภท โดยมองว่าระยะสั้นผลประกอบการได้รับแรงกดดันจากภาวะอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามจากการปรับปรุงการผลิตโดยการควบรวมโรงงาน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงได้อย่างมาก ทำให้หากในอนาคตอุตสาหกรรมฟื้นตัวจะหนุนให้ผลประกอบการของ STANLY เติบโตได้อย่างมาก ดังนั้นเราจึงยังคงแนะนำ “ถือ” ไปก่อน โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 207 บาท (10XPER’25E) ทั้งนี้เราปรับกำไรปี 25 มาอยู่ที่ 1,282 ล้านบาทโดยรวมรายการพิเศษที่เกิดในช่วง FY2Q25 เข้ามา