STANLY (HOLD : Fair Price : Bt 198.00) : FY1Q25 ถ้าดูกำไรปกติจะเติบโต

Published
Share this article:

**STANLY เริ่มเห็นผลดีจากการรวมกับกลุ่ม STANLY ประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดยล่าสุดมีการรับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนแม่พิมพ์เข้ามาเพิ่ม ขณะที่การควบคุมต้นทุนมีแผนจะควบรวมสายการผลิต โดยมีเป้าหมายระยะยาวลดต้นทุนลงอีก 30% เพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งจากประเทศจีนได้ โดยการควบคุมต้นทุนที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นไตรมาสเริ่มเห็นผลดีบ้างแล้ว จากผลประกอบการงวดงวด FY1Q25 ที่มีกำไรสุทธิ 308 ล้านบาท (-2%YoY,-39%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการขาดทุนจากการตัดจำหน่ายเครื่องจักรประมาณ 28 ล้านบาท กำไรปกติจะเติบโตได้ 9%YoY สวนทางกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยอดผลิตในช่วงดังกล่าวลดลงกว่า 16%YoY ทั้งนี้เรายังคงแนะนำ “ถือ” STANLY ด้วยปัจจัยเรื่องเงินปันผลที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงได้ **

FY1Q25 กำไรสุทธิ 308 ล้านบาท (-2%YoY,-39%QoQ)

• STANLY มีกำไรสุทธิงวด FY1Q25 (เม.ย.-มิ.ย. 24) ที่ 308 ล้านบาท (-2%YoY,-39%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมผลขาดทุนจากการตัดจำหน่ายเครื่องจักรที่เหลือจากการควบรวมสายการผลิตประมาณ 28 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 332 ล้านบาท (+9%YoY) เกิดจากผลดีของการควบคุมต้นทุนที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นไตรมาส ทำให้กำไรขั้นต้น ยังสูงได้ถึง 18% แม้ว่าการผลิตรถยนต์รวมจะลดลงถึง 16%YoY,16%QoQ จากการเป็นช่วง Low Seasons ของอุตสาหกรรม

• รายได้ 2,996 ล้านบาท (-9%YoY,-20%QoQ) ได้รับผลกระทบตามอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง รวมถึงในไตรมาสที่ผ่านมามีการเร่งส่งมอบสินค้าที่มีการค้างส่งให้กับลูกค้า ทำให้ยอดรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลงมากกว่าอุตสาหกรรม

• กำไรขั้นต้นที่ 18.4% ดีขึ้นจาก 15.3% ใน FY1Q24 ได้รับผลดีจากการควบควบคุมต้นทุนข้างต้น แต่ลดลงจาก19.9% ใน FY4Q24 ตามปริมาณขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 308 ล้านบาท (+15%YoY,+5%QoQ) เพราะมีค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายเครื่องจักรเข้ามา

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ 94 ล้านบาทใกล้เคียงกับ FY4Q24 แต่ลดลง-2%YoY รายได้อื่นที่ 44 ล้านบาท (-5%YoY,-36%QoQ)

ปี 25 เริ่มขยายสินค้าไปกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น

ภาพรวมปีงบประมาณ 25 (เม.ย.24-มี.ค.25) ทาง STANLY ยังคงมองว่าอุตสาหกรรมจะยังอยู่ในภาวะซบเซา โดยเป้าการผลิตที่ 1.7 ล้านคันที่ปีนี้ยังมีความเสี่ยงว่าจะไปถึงหรือไม่ ทำให้ทางผู้บริหารยังคงมองหาช่องทางการลดต้นทุนอีกทั้งการใช้ Robot เข้ามาเพิ่มหรือการควบรวมสายการผลิตอย่างที่เคยทำมาตอนต้นปีมาแล้ว โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการลดต้นทุนลงอีก 30% จากระดับปัจจุบันเพื่อให้แข่งขันกับสินค้าจากประเทศจีนได้ ขณะที่ผลดีจากการรวมกับบริษัทแม่อย่าง STANLY ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เริ่มมีคำสั่งซื้อในชิ้นส่วนงานแม่พิมพ์เข้ามาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนขยายไปยังตลาดกลุ่มหลอดไฟเพิ่มอีกทาง

ระยะกลาง แนะนำ “ถือ” รับปันผล

แม้กำไรปกติช่วง FY1Q25 จะเติบโต แต่ด้วยความเสี่ยงที่ยังมีอยู่มาก เราจึงยังคงประมาณการกำไรทั้งปีที่ 1,444 ล้านบาท (-18%YoY) ไว้เท่าเดิม ด้านคำแนะนำการลงทุนเรายังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ที่ 198 บาท (10.5XPER’25E) เพราะมองว่า STANLY ยังจ่ายปันผลในระดับสูงได้ต่ออีกปีหลังจากความต้องการเงินลงทุนยังมีไม่มากนัก