STANLY (HOLD : Fair Price : Bt 198.00) : คาด FY1Q25 เป็นจุดต่ำสุดของปี

Published
18 July 2024
Share this article:

เราคาดว่า STANLY จะมีกำไรสุทธิงวด FY1Q25 อยู่ที่ 301 ล้านบาท (-3%YoY,-39%QoQ) ได้รับแรงกดดันจากเป็นช่วง Low Seasons ของอุตสาหกรรม ที่มีวันหยุดมากในเดือน เม.ย.-พ.ค. ขณะที่การปรับโครงสร้างบริษัทในการรวมกับกลุ่ม STANLY ประเทศญี่ปุ่นช่วงแรก ยังคงเป็นช่วงปรับโครงสร้างในบริษัท จึงยังไม่เห็นผลดีในระยะสั้นนี้ ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นได้ในช่วงปลายปีเป็นต้นไป และจากภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยอดการผลิตรถยนต์ในช่วง 5M24 ลดลงถึง 17%YoY ทำให้เราปรับประมาณการใหม่โดยปรับลดกำไรทั้งปีลงจากเดิม 12% มาเหลือเพียง 1,444 ล้านบาท (-18%YoY) ภายใต้สมมติฐานการผลิตรถยนต์ลดลง 10%YoY จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะลดลง 5%YoY และทำให้ได้มูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 198 บาท (10.5XPER’25E)

คาด FY1Q25 กำไรสุทธิ 301 ล้านบาท (-4%YoY,-40%QoQ)

• เราคาดว่า STANLY มีกำไรสุทธิงวด FY1Q25 (เม.ย.-มิ.ย. 24) ที่ 301 ล้านบาท (-4%YoY,-40%QoQ) ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมที่ลดลง หลังจากไตรมาสก่อนหน้ายังได้รับผลกระทบไม่มากนัก รวมกับการเป็นช่วง Low Seasons ของอุตสาหกรรมที่มีวันหยุดค่อนข้างในเดือน เม.ย.-พ.ค.

• รายได้คาดที่ 2,955 ล้านบาท (-11%YoY,-21%QoQ) เทียบกับปีก่อนได้รับแรงกดดันจากภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยอดการผลิตในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสลดลงกว่า 16%YoY แต่สาเหตุที่รายได้ของ STANLY ลดลงน้อยกว่าอุตสาหกรรมเพราะปริมาณการผลิตของลูกค้า HONDA ลดลงเพียง 7%YoY ส่วนเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพราะเป็นช่วง Low Seasons ตามที่กล่าวไปข้างต้น

• กำไรขั้นต้นที่ 17.5% ดีขึ้นจาก 15.3% ใน FY1Q24 เพราะมีการควบคุมภายในบริษัทอย่างเช่นการควบรวมสายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีขึ้น และราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตลดลง แต่ลดลงจาก19.9% ใน FY4Q24 ตามปริมาณขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%YoY ส่วนหนึ่งมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่มีการย้ายจากโรงงานมาอยู่ในส่วนกลางหลังมีการควบรวมสายการผลิต

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดไว้ที่ 84 ล้านบาท (-12%YoY, -9%QoQ) ขณะที่รายได้อื่นคาดที่ 69 ล้านบาท (+49%YoY) ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยรับ

ปี 25 เน้นลดต้นทุน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอุตสาหกรรม

ภาพรวมปีงบประมาณ 25 (เม.ย.24-มี.ค.25) ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะชะลอตัวอย่างมาก (ยอดการผลิต 5M24 ลดลง 17%YoY) ทำให้ทาง STANLY ต้องปรับปรุงภายในเป็นอย่างมาก ทั้งการควบรวมสายการผลิตในบางประเภทสินค้า หรือการร่วมมือกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นที่จะช่วยในการจัดหาคำสั่งซื้อ หรือการผลิตสินค้าประเภทใหม่ๆ โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลดีตั้งแต่ปลายปี 24 นี้

ระยะกลาง แนะนำ “ถือ” รับปันผล

เราปรับกำไรสุทธิในปี 25 ลงอีก 12% มาอยู่ที่ 1,444 ล้านบาท (-18%YoY) โดยปรับลดสมมติฐานการผลิตรถยนต์ไทยลดลง 10%YoY จากเดิมคาดไว้ว่าจะลดลง 5%YoY ทั้งนี้เราคาดว่าผลประกอบการงวด FY1Q25 จะเป็นช่วงที่ต่ำสุดของปีก่อนจะค่อยๆดีขึ้นในช่วงที่เหลือ รวมกับการจ่ายเงินปันผลที่คาดว่าผลตอบแทนในปีนี้จะยังสูงที่ระดับ 7-8% ต่อปี เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 198 บาท (10.5XPER’25E)