SPALI (BUY : Fair Price : Bt 19.50) : การเติบโตมีความท้าทายจากการแข่งขันด้านราคา

Published
Share this article:

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 19.5 บาท โดยเรามีมุมมองเป็นกลางต่อคาดการณ์กำไรสุทธิใน 4Q24 ที่ 1.5 พันล้านบาท (-24% YoY, -23% QoQ) ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของยอดขาย (Presales) และการแข่งขันด้านราคาทั้งในแนวราบและคอนโดที่สูงกว่าเดิม อีกทั้งยอดจองพร้อมโอนของ SPALI ที่ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จะกดดันการเติบโตของรายได้ในปี 2025 อย่างไรก็ดี เรามองว่าราคาหุ้นปรับลดลง 16%YTD ทำให้ SPALI ซื้อขายที่เพียง 5.3x PE’25 ได้สะท้อนความกังวลไปบางส่วนแล้ว และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 8.5% แนะนำทยอยซื้อลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัว เพราะราคาหุ้นอาจมีความอ่อนไหวจากภาวะการลงทุนที่ผันผวน

คาดกำไรสุทธิใน 4Q24 คาดอ่อนตัวทั้ง YoY และ QoQ

• คาดกำไรสุทธิใน 4Q24 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-24% YoY, -23% QoQ) จาก 1) ยอดขาย (Presales) ที่หดตัว (-7.3% YoY) โดยเฉพาะโครงการแนวราบ โดยเรามองว่าเป็นผลมาจากอัตราเข้าชมโครงการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และ 2) การแข่งขันด้านราคาในตลาดคอนโดสูงขึ้น

• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) 4Q24 คาดอยู่ที่ 37% (+2 ppts YoY, -3 ppts QoQ) ด้วยสัดส่วนการรับรู้โครงการแนวราบที่มีอัตรากำไรต่ำกว่าคอนโดมีสูงถึง 73% ของรายได้ทั้งหมด และการแข่งขันด้านราคาในตลาดคอนโดที่มากขึ้น

แนวโน้มการเติบโตปี 2025 ยมีความท้าทายจากการแข่งขันที่สูงขึ้น

คาดกำไรในปี 2025 เติบโตเล็กน้อย 1.8% อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท จาก 1) คาดรายได้เติบโตเล็กน้อยจากอุปสงค์ที่ยังไม่ฟื้นตัว 2) กำหนดการเปิดโครงการใหม่ที่สูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาท/ 4.6 หมื่นล้านบาทใน 2024/25 และ 3) ยอดขายคอนโด Icon Sathorn ที่รับรู้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกำหนดโอนคอนโด Blue Whale Huahin (มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ขายแล้ว 72%) ใน 3Q25 คาดหนุนอัตรากำไรในปี 2025 อยู่ในระดับสูงที่ 36-37%

ปรับประมาณการกำไรปี 2024 สูงขึ้น แต่ลดลงกำไรในปี 2025

เราปรับประมาณการกำไรปี 2024 เพิ่มขึ้น 1.2% ถึงแม้รายได้อาจลดลง แต่ใน 4Q24 อัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสอยู่ในระดับดีที่ 37% หนุนให้ GPM เฉลี่ยรวมในปี 2024 ยังคงสูงอยู่ที่ 37.4% ขณะที่ เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ลง 7% จาก 1) อัตราการเยี่ยมชมโครงการที่อ่อนตัวอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนอุปสงค์ของตลาดที่อ่อนแอ 2) การแข่งขันด้านราคาในตลาดคอนโดที่สูงอาจกดดัน GPM 3) ยอด Backlog ที่ต่ำ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมีกำหนดโอนในปี 2025 เพียง 7.5 พันล้านบาท และ 4) บริษัทเห็นโอกาสปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยในปี 2025 รวมทั้งยังไม่มีสัญญาณมาตราการกระ
ตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ใหม่จากภาครัฐในระยะสั้น

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย Dividend Yield 8.5% ในปี 2025

เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานลง 20% ที่ 19.5 บาท จากความสามารถในการขาย และการทำกำไรที่มีแนวโน้มอ่อนตัว และเมื่อพิจารณาแนวโน้ม ROE ที่ลดลงจึงปรับอัตราการเติบโต (TG) ลง (-0.5 ppts) แต่เรายังคงแนะนำ ”ซื้อ” ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง 8.5% ในปี 2025 และ Upside ที่ 33% เราประเมินมูลค่าพื้นฐานด้วย Justified P/E จากการคิดลดเงินปันผล (GGM) จาก COE 8.9% และ TG 2% เทียบเท่า 6.6x PE’25 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย