SCB (HOLD : Fair Price : Bt 123.00) : โดดเด่นในการจ่ายเงินปันผลสูง
**เราคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 123 บาท และคาดจะมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุดในกลุ่มธนาคารที่ 8.7% ในปี 2024 (หักเงินปันผลระหว่างกาลเหลือ 5.5%) และให้เพิ่มเป็น 8.9%/9.4% ในปี 2025-26 ถือเป็นจุดเด่นในการลงทุน แม้ SCBX จะได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยลดลง โดยประเมินว่าทุก 100 bps ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะกระทบต่อ NIM ลดลง 25-30 bps แต่ด้วยการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดี ทำให้เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2024-26 เพิ่มขึ้น 2-4% โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 4.3% ในปี 2024 และฟื้นกลับมาขยายตัว 2.2%/5.8% ในปี 2025-26 ด้านผลการดำเนินงานใน 3Q24 กำไรสุทธิแข็งแกร่งที่ 10.9 พันลบ. (+13.2% YoY, +9.3% QoQ) คุณภาพสินเชื่อทรงตัว NPL ratio เพิ่มเล็กน้อยที่ 3.4% และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 163.9% **
การประชุมนักวิเคราะห์
• SCB คาดคณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในปี 2025 เป็น 2.0% หลังจากที่ กนง. ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ต.ค. โดยได้ประเมินว่าทุก 100 bps ที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จะส่งผลทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของ SCBX ลดลง 25-30 bps
• คุณภาพสินเชื่ออยู่ในการควบคุม และหนี้เสียไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ Underperforming loans ใน 3Q24 จะปรับสูงขึ้นเกือบ 10 พันล้านบาท และธนาคารมองว่ามีการกันสำรองหนี้ฯ ที่สูงเพียงพอ
• แม้ SCBX ให้ความสำคัญกับการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ Gen 2 ด้าน CARD X ที่เป็นธุรกิจหลักสร้างการเติบโตในกลุ่มนี้ แต่เพราะคุณภาพสินเชื่อที่เปาะบาง ทำให้กลยุทธ์การเติบโตสินเชื่อเน้นความระมัดระวังเป็นหลัก และยังต้องกันสำรองหนี้ฯ สูง โดยตั้งเป้าลด Credit cost เป็นระดับ Mid-single digit เทียบกับปัจจุบันที่เป็นระดับ High single digit แต่ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่แน่นอน
• SCBX ยืนยันสามารถรักษาการจ่ายเงินปันผลที่ 80% ของกำไรได้ต่อไปโดยไม่กระทบการเติบโตในอนาคต
ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดผลกระทบจาก NIM ลดลง
• SCB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.12-0.25% มีผลวันที่ 1 พ.ย. และต่ออายุโครงการความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปาะบางถึงสิ้นปี 2024 ผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้เราปรับลดคาดการณ์ NIM ลดลง 5-10 bps เหลือ 3.8% ในปี 2025-26 จากราว 4% ในปี 2024
• ด้วยผลกำไรใน 3Q24 ที่ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดีกว่าคาด และเราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิเพิ่ม 2-4% ในปี 2024-26 อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรสุทธิจะปรับลดลง 4.3% ในปี 2024 และกลับมาขยายตัว 2.2%/5.8% ในปี 2025-26
คงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 123 บาท
คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 123 บาท (เดิม 120 บาท) คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.8%, TG 2%) อิงจาก 0.84x PBV’25E หรือ -0.75SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี