SCB (HOLD : Fair Price : Bt 106.00) : คุณภาพสินเชื่ออ่อนแอกดดันการเติบโต
เราปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" และปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 106 บาท แม้ SCB ชี้แจงว่าได้กันสำรองหนี้พิเศษ 800 ล้านบาท และครอบคลุมสินเชื่อที่ให้ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) รวม 12 พันล้านบาท (สินเชื่อมีหลักประกัน 11.5 พันลบ. และไม่มีหลักประกัน 500 ลบ.) แต่เรามองว่า EA ยังมีความท้าทายในการชำระคืนเงินกู้รวมราว 62 พันลบ. (หุ้นกู้ 31 พันลบ. และเงินกู้สถาบันการเงิน 31 พันลบ.) สิ้น 1Q24 ดังนั้น SCB มีความเสี่ยงที่อาจต้องกันสำรองหนี้ฯ เพิ่มในอนาคต หาก EA ผิดนัดชำระหุ้นกู้ในอนาคต และยังไม่มีความชัดเจนในแผนการฟื้นฟูธุรกิจ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเปาะบางทำให้เราเชื่อว่า SCB จะเพิ่มความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อซึ่งจะกระทบรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม เราปรับลดคาดการณ์กำไรลดลง 11-14% ในปี 2024-25 และคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 8.4% ในปี 2024 โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 9.3% ในปี 2024
การประชุมนักวิเคราะห์
• SCBX มองว่าเป้าหมายการเงินในปี 2024 ด้าน Credit cost และรายได้ค่าธรรมเนียมมีความท้าทาย ส่วน NIM และ Cost to income ratio เป็นไปตามเป้าหมาย ภาวะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเปาะบาง และความเสี่ยงคุณภาพลูกหนี้รายย่อยขยายตัวจากกลุ่มรายได้ 3 หมื่นบาท เพิ่มเป็นกลุ่มรายได้ 5-6 หมื่นบาท ทำให้การขยายสินเชื่อใน 2H24 เพิ่มความระมัดระวังเพื่อดูแลเงินกองทุนที่เหมาะสม และยืนยันสามารถรักษาการจ่ายเงินปันผลที่ 80% ของกำไรได้
• SCB ปล่อยสินเชื่อให้ EA รวม 12 พันล้านบาท แบ่งเป็น (1) สินเชื่อโครงการ (Project finance) รวม 11.5 พันลบ. และ (2) สินเชื่อไม่มีหลักประกัน 500 ลบ. ซึ่ง SCB ชี้แจงว่าได้กันสำรองหนี้ฯ พิเศษครั้งเดียว และครอบคลุมแล้วรวม 800 ลบ. ใน 2Q24 โดยมองว่าโครงการด้านพลังงานของ EA มีกระแสเงินสด และหลักประกันครอบคลุมหนี้ในส่วนสินเชื่อโครงการ โดย SCB ปรับชึ้นลูกหนี้ EA เป็น Underperforming loans ใน 2Q24
• กลุ่มธุรกิจ Gen 2 แบ่งเป็น (1) SCB มองว่า CARD X จะกลับมีกำไรใน 2H และแนวโน้มสำรองหนี้ฯ จะลดลง และ (2) AUTO X มีการเติบโตสูง คุณภาพสินเชื่อตามเป้าหมาย และมีแผนกระจายการเติบโตไปสินเชื่อจำนำประเภทอื่น (ที่ดิน และที่อยู่อาศัย) นอกเหนือจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์
• กรณี Robinhood ที่มีดำเนินงานขาดทุน 2 พันลบ. ในปี 2022-23 SCB มีค่าใช้จ่ายพิเศษ 800 ลบ. ใน 2Q และมีสินทรัพย์เหลือ 1 พันลบ. ในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส โดย SCB คาดว่า Worst case จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่เกิน 1 พันลบ. และมีแนวทางการจัดการพร้อม ทำให้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำกัดใน 3Q และจะไม่มีผลขาดทุนเพิ่มใน 4Q24 และในปี 2025
ปรับลดคาดการณ์กำไรลดลงจากความเสี่ยงคุณภาพสินเชื่อ
• เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลดลง 11-14% ในปี 2024-25 จากการปรับเพิ่ม Credit cost เป็น 180 bps ในปี 2024-25 (เดิม 165 bps) โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับลดลง 8.4% ในปี 2024 และกลับมาขยายตัว 4.4% ในปี 2025
ลดคำแนะนำเป็น "ถือ" และลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 106 บาท
ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” จากมุมมองเชิงลบต่อความสามารถการทำกำไรลดลง และความไม่แน่นอนจากสินเชื่อที่ปล่อยให้ EA อาจสร้างภาระสำรองหนี้ฯ สูงขึ้น ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 106 บาท จาก 118 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.4%, TG 2%) อิงจาก 0.73x PBV’24E หรือ -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี