SAWAD (HOLD : Fair Price : Bt 41.00) : สินเชื่อชะลอตัว แต่กำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่อง
คงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 41 บาท ภายใต้เศรษฐกิจฟื้นตัวเปาะบาง SAWAD เน้นการควบคุมคุณภาพสินเชื่อเพื่อจำกัดความเสี่ยงหนี้เสีย และการขาดทุนรถยึดที่จะไปกดดันภาระสำรองหนี้ฯ สูง อย่างไรก็ดี ใน 4Q24 เราคาดว่าสินเชื่อฟื้นตัว และสำรองหนี้ฯ รวมทั้งการขาดทุนรถยึดจะลดลง ทำให้คาดว่ากำไรจะเติบโตได้ YoY และ QoQ ทั้งนี้ แม้เราได้ปรับลดประมาณการกำไรในปี 2024-26 ลดลง เพพราะการขยายสนิเชื่ออ่อนแอกว่าคาด เรายังคาดว่ากำไรจะเติบโต 2.8% Yoy และเร่งตัวขึ้นเป็น 10.2%/12.8% ในปี 2025-26 ด้านกำไรสุทธิใน 3Q24 ออกมาที่ 1.3 พันล้านบาท (-6.2% YoY, +2.8% QoQ) ขณะที่ NPL ratio เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.4% เพราะฐานสินเชื่อที่ลดลง และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 68%
การประชุมนักวิเคราะห์
• กลยุทธ์หลักเน้นคุณภาพสินเชื่อ เพราะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวเปาะบาง กอปรกับการชำระคืนสินเชื่อส่งผลให้สินเชื่อใน 3Q24 ปรับลดลง ในทางกลับกัน SAWAD สามารถคุม NPL ratio ไม่เกิน 3.5% ตามเป้าหมาย บริษัทมีแผนการออกหุ้นกู้ใหม่ใน 4Q24 ทำให้สินเชื่ออาจกลับมาขยายตัวได้ และคาดสินเชื่อจะโตราว 10% ในปี 2025
• บริษัทคลายกังวลคุณภาพสินเชื่อ NPL ratio จะไม่เกิน 3.5% สิ้นปี 2024 หลังจากผ่านกระบวนการจัดการงบดุลมาหลายไตรมาส และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2024 ทำให้การขาดทุนรถยึดลดลงใน 4Q และกลับเป็นปกติในปี 2025 ทำให้ Credit cost ลดลงที่ 180 bps ในปี 2025 เมื่อภาระสำรองหนี้ฯ คลายตัว สินเชื่อจะกลับมาขยายตัวได้
• NIM ใน 4Q ยังมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อชะลอตัว และต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น
• บริษัทมีฐานะการเงินมั่นคงและไม่มีปัญหาสภาพคล่อง โดยมีวงเงินกู้กับทางธนาคารสูงราว 8 พันลบ. แต่บริษัทต้องการเก็บสภาพคล่งเพื่อขยายธุรกิจ ดังนั้น การจ่ายเงินยังไม่สูงในปี 2024-25
• คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้อนุมัติใบอนุญาตขายประกันออนไลน์ ทำให้รายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันจะเติบโตในปี 2025
• บริษัทวางเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ 200 แห่ง/ปี จาก 5,695 แห่ง สิ้น 3Q24
**ปรับลดประมาณการกำไรจาอสินเชื่ออ่อนแอกว่าคาด **
• เราปรับลดเป้าหมายสินเชื่อลงเหลือ -0.2%/+7.5%/+9.5% ในปี 2024-26 จากเดิม +10.4%/+12.1%+11.6% สะท้อนนโยบายการควบคุมการเติบโตสินเชื่อ โดยมองว่าสินเชื่อจะกลับมาได้ในปี 2025 โดยเราได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลง 3-4% ในปี 2024-26 อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะขยายตัว 2.8% ในปี 2024 และเร่งตัวขึ้นเป็น 10.2%/12.8% ในปี 2025-26
• ผลจากการทยอยลดสำองหนี้ และการขาดทุนรถยึดลดลง เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q24 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ
คงคำแนะนำ "ถือ” ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 41 บาท
เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 41 บาท จาก 43 บาท สะท้อนการปรับกำไรลดลง คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 15.5%, TG 5%) อิงจาก 1.6x PBV’25E และ 10.9x PE’25E