MEGA (BUY : Fair Price : Bt 48.00) : คาดกำไรปกติ 2Q24 ดีขึ้น QoQ
คาดรายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 574 ล้านบาท (+8%YoY) และมีกำไรปกติ 2Q24 ที่ 654 ล้านบาท (-8%YoY, +4%QoQ) ผลจากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า (วิตามินและอาหารเสริม) ซึ่งจะลดลงใน 2H24 ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายลดลง YoY ผลจากจากภาวะเงินเฟ้อทำให้รายได้จัดจำหน่ายส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง แม้ว่ายอดขายยาจะเติบโต YoY ขณะที่ภาพระยะกลางบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 2025 ที่จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2019 ขณะที่มูลค่าหุ้นน่าดึงดูด ปัจจุบันซื้อขายเพียง 12.6xPE’24E ยังต่ำกว่า -1SD ของค่าเฉลี่ยการซื้อขายในรอบ 5 ปี เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 48.00 บาท (เดิม 52.00 บาท) เพื่อสะท้อนกำลังซื้อในเมียนมา
Branded business หนุนผลประกอบการ
• คาดรายได้จากธุรกิจ Mega We Care (ยาและอาหารเสริม) จะเติบโตเป็น 2.1 พันล้านบาท (+4%YoY, +9%QoQ) ใน 2Q24 เพราะการฟื้นตัวของยอดขายยาในโรงพยาบาล และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า (วิตามินและอาหารเสริม) แม้การบริโภคมีทิศทางชะลอตัวลง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ธุรกิจ Mega We Care ที่ 64.4% ใน 2Q24 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 65.8% ใน 2Q23 และ 64.3% ใน 1Q24• คาดรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่าย (Maxxcare’s) จะลดลง YoY ที่ 1.8 พันล้านบาท (-1%YoY) ใน 2Q24 สืบเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง จากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้รายได้จัดจำหน่ายส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงแม้ว่ายอดขายยาจะเติบโต YoY ขณะที่คาดว่า GPM ของหน่วยธุรกิจนี้จะใกล้เคียงกับ 1Q24 ผลจากการบริหารภายในที่ดีขึ้น และสัดส่วนยอดขายที่มีอัตรากำไรดีขึ้นเนื่องจากลูกค้ารายหนึ่งในเมียนมาที่หายไปมีอัตรากำไรต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
• คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 28.5% ใน 2Q24 จาก 26.0% ใน 2Q23 และใกล้เคียงกับ 28.6% ใน 1Q24 ผลจากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มากขึ้น
**คาดกลับมาเติบโตในปี2024 หลังเจอฐานสูงช่วงโควิด19 **
เราคาดว่ายอดขายธุรกิจยาและอาหารเสริม (Mega We Care) จะขยายตัว 1%YoY ในปี 2024 แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ราว 4%-6% หนุนจากการฟื้นตัวของรายได้จากกลุ่มสินค้ายาตามใบสั่งแพทย์ ตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขณะที่ยอดขายสินค้ากลุ่มวิตามินและอาหารเสริมคาดว่าจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการบริโภคที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าใหม่ที่เตรียมจำหน่ายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าจำนวน 170 รายการ หลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่ไปกว่า 30 รายการในช่วงปี 2022-23 ส่วนรายได้ธุรกิจจัดจำหน่าย (Maxxcare’s) จะเพิ่มขึ้น 1.5%YoY ในปี 2024 สูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่คาดว่าจะทรงตัว YoY เนื่องจากยาและเวชภัณฑ์ในประเทศเมียนมานำเข้าจากต่างประเทศ และไม่มีผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งสินค้าของ MEGA ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และเนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็นทำให้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบจำกัด
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าหุ้นน่าดึงดูด
มูลค่าพื้นฐานที่ 48.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 10% และ TG 3% เทียบเท่า 16xPE’24E หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ยการซื้อขายในรอบ3ปี และคิดเป็นส่วนลด 50% จากค่าเฉลี่ยกลุ่มการแพทย์และโรงพยาบาลในไทย