KBANK (BUY : Fair Price : Bt 180.00) : เป้าหมายเพิ่ม ROE เป็น 2 หลักยังท้าทาย

Published
Share this article:

**เราคงแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 180 บาท จากมุมมองบวกต่อกำไรเติบโตต่อเนื่องในปี 2025-26 Valuation ที่ไม่แพง และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงขึ้นที่ 5.4%/5.7% ในปี 2025-26 ธนาคารมีความเห็นว่าการดำเนินงานธุรกิจที่ผ่านมา และแผนธุรกิจในปี 2025 เป็นการปูทางสู่เป้าหมายการเพิ่ม ROE เป็น 2 หลักในปี 2026 แต่เรามองว่าแผนในการบริหารเงินกองทุนที่จะส่งผลให้ ROE เพิ่มขึ้นยังต้องรอความชัดเจน กอปรกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกอาจกดดันการเติบโตในอนาคต ดังนั้น เรามองว่าการบรรลุเป้าหมาย ROE ยังค่อนข้างท้าทาย เราคาดว่ากำไรสุทธิเติบโตได้ต่อเนื่อง 5.8/5.6% ปี 2025-26 หนุนจาก Credit cost ลดลงเหลือ 150/140 bps และรายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวสูงขึ้น เราคาดว่า ROE จะทรงที่ 8.8% ในปี 2025-26 บนสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มเป็น 40% ในปี 2024-26 จาก 36.3% ในปี 2023 **

การประชุมนักวิเคราะห์

• เป้าหมายทางการเงินปี 2025 (1) สินเชื่อทรงตัว YoY ประกอบด้วยสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ (Corporate) -2% ถึง 0% สินเชื่อที่ไม่ขยายตัวมาจากการชำระคืนหนี้ของลูกค้ามากกว่าความกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อ, สินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) -2% ถึง 0% เน้นปล่อยสินเชื่อกลุ่มลูกค้าปัจจุบันมากกว่าขยายฐานลูกค้าใหม่, สินเชื่อรายย่อย (Retail) เติบโต 5% ถึง 7% เน้นสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อบัตรเครดิต ลูกค้ามีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด (2) NIM ที่ 3.3-3.5% บนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปรับลด 2 ครั้ง เหลือ 1.75% สิ้นปี 2025 โดย KBANK มองว่า NIM หลังจาก Credit cost แนวโน้มเพิ่มขึ้น (3) รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิโต Mid to High Single digit เกิดจาก เช่น ธุรกิจ Wealth management และธุรกิจด้าน Forex และการค้า (4) Cost to income ratio ที่ Low to Mid-40s เน้นควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ (5) Credit cost ลดลงที่ 140-160 bps ผลจากโครงการบริหารงบดุลที่แล้วเสร็จในปี 2024, คุณภาพสินเชื่อดีขึ้นจากความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ และการบริหาร NPL Inflow และ (6) NPL ratio ไม่เกิน 3.25% ทั้งนี้ KBANK ไม่มีแผนในการซื้อหุ้นคืน ดังนั้น การเพิ่ม ROE ส่วนหนึ่งมา
จากการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล

เน้นควบคุมคุณภาพสินเชื่อมากกว่าการเร่งขยายสินเชื่อ

• เราคาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 5.8% ในปี 2025 ชะลอตัวจากเติบโต 13.6% ในปี 2024 ผลักดันการเติบโต (1) สำรองหนี้ฯ ปรับลดลง โดยเราสมมติฐาน Credit cost ที่ 150 bps บนสมมติฐาน NPL ratio ที่ 3.2% และ Coverage ratio ที่ 154.6% ในปี 2025 และ (2) รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต โดย Cost to income ratio ที่ 45.8% ในปี 2025

• ROE มีแนวโน้มทรงตัวที่ 8.8% ในปี 2025 ดังนั้น การเพิ่ม ROE เป็น 2 หลักเป็นสิ่งท้าทายภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก

• เราประเมินทุก 10 bps ของ credit cost ที่ลดลงจะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2025 ของเราที่ 50.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น
3.7% รวมทั้งส่งผลให้ ROE เพิ่มขึ้นราว 30 bps จากประมาณการของเราที่ 8.8%

แนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 180 บาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 180 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.8%, TG 2%) อิงจาก 0.7x PBV’25E หรือ -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี