ICHI (BUY : Fair Price : Bt 18.00) : ปันผลสูง และมีโอกาสเติบโตจากสินค้าใหม่
เราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 18.00 บาท เนื่องจาก upside ที่มากขึ้น ปัจจุบันซื้อขายเพียง 13.6xPE’25E เทียบกับ ROE 24% นอกจากนี้บริษัทมีสถานะเงินสดสุทธิสามารถจ่ายผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูด 6%-7% ในปี2025-26 ยอดขายและกำไรในปี2025 มีแนวโน้มเติบโตตามตลาดชาพร้อมดื่ม น้ำด่าง PH+ ที่ขายดีขึ้น MoM อย่างต่อเนื่อง และยอดขายที่มีโอกาสเติบโตจากการเจาะตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศด้วยกลยุทธ์ 10 บาท/ขวด
แนวโน้มกำไร 4Q24 สดใสต่อเนื่อง YoY
คาดกำไร 3Q24 ที่ 336 ล้านบาท (+14%YoY, -6%QoQ) แรงหนุนจากยอดขายชาพร้อมดื่มที่ยังเติบโตต่อเนื่อง น้ำด่าง PH+ ที่ขายดีขึ้นต่อเนื่องระดับ 70 ล้านบาท/เดือน สินค้าใหม่ 5 รายการที่เริ่มทยอยจำหน่ายตั้งแต่เดือนก.ย. 2024 ตามรูปหน้าที่2 ซึ่งทั้ง 4 รายการที่จำหน่ายไปแล้วได้รับกระแสตอบรับที่ดี ขณะที่การลดลง QoQ เป็นผลจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น QoQ ตามสินค้าใหม่ที่ออก
ปี 2025 ยังโตต่อเนื่อง
ปัจจุบันการกระจายสินค้าตันพาวเวอร์ยังทำได้น้อย มีขายในช่องทาง Lotus’s ซึ่งเราเชื่อว่าหลังการเจรจากับ 7-11 ช่วงปลายปี2024 จะทำให้การกระจายสินค้าทำได้ดีขึ้นในปี2025 นอกจากนี้ยังมีคำสั่งซื้อ OEM น้ำมะพร้าวที่หากมีวัตถุดิบเพียงพอจะสามารถสร้างยอดขายได้ราว 500 ล้านบาท คิดเป็น upside จากประมาณการเราราว 5% ในปี2025ในแง่ของต้นทุนบริษัทเตรียมปรับสูตรน้ำตาลเพื่อรับมือรับภาษีความหวานเกือบครบทุกสินค้าแล้ว โดยเราประเมินยังรักษาระดับได้ใกล้เคียงกับปี2024 จากต้นทุนวัตถุดิบหลักเช่น น้ำตาล และขวด PET ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงชดเชยกับค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น
**ตลาดชาพร้อมดื่มยังเติบโตต่อเนื่อง **
• ตลาดชาพร้อมดื่มยังเติบโต 12% YoY ในเดือนก.ย. 2024 ใกล้เคียงกับช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. 2024 ที่เติบโต 14% YoY และเป็นหมวดที่เติบโตสูงสุดในกลุ่มเครื่องดื่มที่ขายในประเทศไทยในรอบ 9M24
• ICHI ขยายกำลังการผลิตอีก 200 ล้านขวด/ปี หรือ +13% จากกำลังผลิตปัจจุบันที่ 1,500 ล้านขวด/ปี ด้วยงบลงทุน 460 ล้านบาท คาดกำลังการผลิตใหม่นี้จะเดินเครื่องได้ภายในปลายปี2024 โดยจะรับรู้ค่าเสื่อมราคาราว 2.5 ล้านบาท/เดือน ซึ่งรวมอยู่ในประมาณการเราแล้ว
• ในอดีตตลาดชาเขียวพร้อมดื่มเคยได้รับความนิยมมากจากกระแสการดื่มเพื่อส่งชิงโชค โดยมีมูลค่าตลาดเติบโตกว่าเท่าตัวในช่วง 3 ปี จนแตะจุดสูงสุดในช่วงปี2013 ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ก่อนปรับตัวแตะจุดต่ำสุดในปี2018 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท และฟื้นตัวกลับมาตามเทรนด์กระแสสุขภาพและความคุ้มค่าของราคา จนสามารถกลับมาแตะระดับ 1.6 หมื่นล้านบาทได้อีกครั้งในปี2023 เราคาดตลาดชาพร้อมดื่มขยายตัวแตะ 1.8 หมื่นล้านบาท (+10%YoY) ในปี2024 จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด การเพิ่มพื้นที่ขายในตู้แช่จากราคาที่ย่อมเยากว่าสินค้าอื่นๆ ซึ่งจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดขยายตัวในปี2025-26
• การเข้ามาทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มขวด 10 บาทของโออิชิ ซึ่งเดิมเน้นทำตลาดในระดับราคามากกว่า 10 บาท/ขวด เราเชื่อว่าไม่มีผลกระทบแบบมีนัยยะสำคัญต่อชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตันขวด 10 บาท เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดของ Ichitan เพิ่มขึ้นเป็น 34% ในช่วงเดือนม.ค.–ต.ค.2024 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 32%