HMPRO (BUY : Fair Price : Bt 13.90) : กำไร 2Q24 ทรงตัว YoY ตามคาด
ท่ามกลางกำลังของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ประกอบกับงานก่อสร้างและการโอนโครงการอสังหาฯ ที่ลดลง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในส่วนของสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านจะชะลอตาม โดย HMPRO รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q24 ทรงตัว YoY ที่ 1.6 พันล้านบาท (-5%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและ BB consensus คาด ผลจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 2Q24 ติดลบ 7.3% YoY (HomePro ที่ -7.3%, Mega Home ที่ -1.3%, และ HomePro Malaysia ที่ -10.4%) แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จะช่วยหนุนการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2H24 เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท
**กำไร 2Q24 ทรงตัว YoY และอ่อนตัวลง QoQ **
• รายได้ 2Q24 ที่ 1.78 หมื่นล้านบาท (-2%YoY, +-1%QoQ) ผลจากยอดขายกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านที่ลดลงเป็น 1.74 หมื่นล้านบาท (-2%YoY) ผลจากยอดขายสาขาใหม่ที่ชดเชยการลดลงของยอดขายสาขาเดิม และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ลดลงเป็น 458 ล้านบาท (-1%YoY)
• SSSG ที่ลดลงมาจาก 3 ปัจจัยหลักๆ 1) การงดจัดงาน HomePro Fair ที่เชียงใหม่โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการจัดงาน HomePro Super Expo ที่ช่องทางสาขา และออนไลน์แทน 2) โครงการปรับปรุงถนน ในพื้นที่หน้า โฮมโปรสาขาราชพฤกษ์ ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สาขาลดลง และ 3) การเข้าสู่ฤดูฝนที่ไวกว่าปกติ ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.
• การขยายสาขาช่วง 2Q24 : มีการเปิด HomePro สาขาลำพูน บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง และ Mega Home สาขาอุดรธานี ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/24 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 130 แห่ง (+7%YoY) แบ่งเป็น Home Pro 90 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 28 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา และ HomePro Vietnam ที่หลัก ๆ ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าภายตลาดออนไลน์
• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 27.0% ใน 2Q24 ลดลง 10 bps YoY แต่ทรงตัวจาก 1Q24 เนื่องจากต้นทุนสาธารณูปโภคจากส่วนพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโฮมโปรสาขาใหม่ แม้ว่า GPM ของผลิตภัณฑ์จะทรงตัว YoY ที่ 26.3% ใน 2Q24 และเพิ่มขึ้น 10 bps QoQ จาก 26.2% ใน 1Q24 จากสัดส่วน Private label ของ Mega Home ที่เพิ่มขึ้น
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงเป็น 18.7% ใน 2Q24 จาก 19.0% ใน 2Q23 ผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี
คาดหวังการฟื้นตัวในช่วง 2H24
การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HomePro ยังคงติดลบราว 5% ใน 15 วันแรกของเดือน ก.ค. 2024 ดีขึ้นจาก -9% ในเดือน มิ.ย. 2024 ขณะที่ Mega Home ติดลบ 5% ใน 15 วันแรกของเดือน ก.ค. 2024 ต่อเนื่องจาก -4% ในเดือน มิ.ย. 2024 ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงเนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ที่ลดลงมาจากกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน ขณะที่กลุ่มอื่นๆ เช่นกลุ่มสินค้าซ่อมแซมลดลงเพียงเล็กน้อย รวมถึงการลดลงส่วนใหญ่มาจากโซนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ กทม. ที่มีผลกระทบจากงานก่อสร้างถนนใกล้สาขาราชพฤกษ์ และการย้ายสาขาบางบัวทองไปสาขารัตนาธิเบศร์ เราเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯ และการเบิกจ่ายงบประมาณจะหนุนให้ SSSG ทยอยปรับตัวดีขึ้นใน 2H24
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าหุ้นไม่แพง
มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 3% เทียบเท่า 26xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย