CBG (BUY : Fair Price : Bt 94.00) : มุ่งหน้าสู่เบอร์ 1 เครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ
**เราเชื่อว่าการดำเนินกลยุทธ์คงราคาขายปลีกเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ 10 บาท/ขวด จะผลักดันการเติบโตยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณของคาราบาวเป็น 26.0% ในปี2025 ซึ่งค่อนข้างอนุรักษ์นิยมกว่าเป้าหมายของบริษัทในสิ้นปี2025 ที่ 29.0% โดยเราคาดว่า CBG จะมีกำไรสุทธิเติบโตแตะ 3.3 พันล้านบาท (+14%YoY) ในปี2025 ขณะที่ปัจจุบันซื้อขาย 24xPE’25E ต่ำกว่า –2SD ของค่าเฉลี่ยการซื้อขายในรอบ 5 ปี และยังมี upside ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี2025 หากสามารถหาพันธมิตรเพื่อกลับเข้าเจาะตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจีนอีกครั้ง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 94.00 บาท **
ระยะสั้นในประเทศโตดี ระยะกลางต่างประเทศฟื้นกลับมาหนุน
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของยอดขายในประเทศจากกลยุทธ์คงราคาขายปลีกเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ 10 บาท/ขวด ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่คู่แข่งหลักมีการปรับราคาขายปลีกขึ้นเป็น 12 บาท/ขวด ซึ่งสะท้อนผ่านส่วนแบ่งการตลาดเดือน ก.ย. 2024 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 25.8% เทียบกับ 23.4% ในเดือน ธ.ค. 2023 และ 19.9% ในเดือน มี.ค. 2022 (เดือนแรกที่คู่แข่งหลังปรับราคาขายปลีก) เราประเมินยอดขายในประเทศจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 7 พันล้านบาท (+9%YoY) ในปี2025 และคิดเป็น 53% ของยอดขายสินค้า Branded own ของบริษัทตลาดเครื่องดื่มชูกำลังใน CLMV ซึ่งเป็น 1 ในหลักพอร์ตรายได้หลักของทาง CBG (สัดส่วน 41% ของยอดขายสินค้า Branded own) อาจขยายตัวไม่มากเนื่องจากแรงกดดันของภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาด้านการขนส่ง โดยเราประเมินยอดขายใน CLMV ที่ 5 พันล้านบาท (+2%YoY) ในปี2025 และกลับมาเร่งตัวขึ้นในปี2026 หลังโรงผลิตเครื่องดื่มชูกำลังที่ย้ายไปผลิตที่ประเทศเมียนมาเริ่มดำเนินการผลิตช่วงกลางปี2025 (ก่อนหน้านี้ติดปัญหาเรื่องการส่งสินค้าผ่านแดน) และที่ประเทศกัมพูชาในปี 2026ในแง่ของต้นทุนบริษัทมีแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้ต้นทุนต่ำลง เช่น การลดขนาดความหนาของกระป๋องลง 0.005 มิลลิเมตร ลดปริมาณน้ำแก้วที่ใช้ต่อขวดลง โดยเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นสินค้า Branded own จะขยายตัว 60 bps YoY ในปี2025 จากการประหยัดต่อขนาดจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้น ต้นทุนอลูมิเนียมที่ลดลงจากคู่ค้ารายใหม่ รวมถึงต้นทุนน้ำตาล เศษแก้วและต้นทุนอื่นๆก็มีทิศทางที่ลดลง นอกจากนี้บริษัทเตรียมปรับสูตรเพื่อรับมือภาษีความหวานในเดือนเม.ย. 2025 ปัจจุบัน Carabao เสียภาษีความหวานในอัตรา 0.3 บาท/ลิตร (น้ำตาล 7.8 กรัม/100ml) ซึ่งเราคาดว่าสูตรใหม่จะไม่กระทบต่อความนิยมในสินค้าตามข้อมูลของ Statista ประเมินว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจีนมีมูลค่าราว 8.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี2024 หรือราว 3.5 แสนล้านบาท ใหญ่กว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยถึง 16 เท่า ซึ่งหาก CBGสามารถหาผู้จัดจำหน่ายที่จะช่วยทำตลาดในประเทศจีน ตามแผนที่มีโอกาสเห็นความชัดเจนช่วงต้นปี2025 จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในอนาคต หากย้อนกลับไปในอดีตคาราบาวเคยทำยอดขายในประเทศจีนได้มากกว่า 1 พันล้านบาทในปี2017 หาก CBG กลับไปมียอดขายในประเทศจีนเท่าปี2017 จะเป็น upside ต่อประมาณการเราราว 10% ในปี2025
คำแนะนำ "ซื้อ" แนวโน้มกำไรยังสดใสต่อเนื่อง
เราประเมินมูลค่าพื้นฐาน 94.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 7.7% และ TG 3% เทียบเท่า 28xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง