BBL (BUY : Fair Price : Bt 171.00) : งบดุลแข็งแกร่งรับความไม่แน่นอน
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 171 บาท สะท้อนความสามารถการทำกำไรลดลง ซึ่งเป็นผลจากคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลงทำให้เราตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี BBL มีงบดุลที่แข็งแกร่งสามารถรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต โดยเราได้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลดลง 3-4% และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 6.5%/6.7% ในปี 2024-25 ด้าน ROE จะปรับเพิ่มขึ้นและทรงตัวที่ 8.2% ในปี 2024-25 ทั้งนี้ เรามองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนแอลงใน 2Q24 ราคามูลค่าหุ้นไม่แพงซื้อขายที่ 0.46x PBV'24E หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 5.6-5.9% ในปี 2024-25
การประชุมนักวิเคราะห์
• BBL คาดเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3% ในปี 2024 ปัจจัยหนุนมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสที่สูงกว่าคาดที่ 36-37 ล้านคน และการเบิกจ่ายงบประมาณที่จะเร่งตัวขึ้นใน 2Q-4Q24 ทำให้ธุรกิจก่อสร้างจะได้รับประโยชน์
• การขยายสินเชื่อทำได้ตามเป้าหมายขยายตัว 3-5% ในปี 2024 หลังจากโต 1.8% YTD ใน 1H24 หนุนจาก (1) สินเชื่อกิจการต่างประเทศ โดยเฉพาะสินเชื่อจากประเทศจีน ฮ่องกง และอินโดนีเซีย และ (2) สินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ที่การแข่งขันไม่รุนแรงมาก และสินเชื่อยังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นกู้ที่ยังไม่เป็นปกติทำให้มีความต้องสินเชื่อจากลูกค้าบริษัทเพิ่มขึ้น
• BBL คาดคณะกรรมการนโยบายการเงินจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% หรืออาจปรับลดเพียง 1 ครั้งในปี 2024 ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าเป้าหมายที่ 2.8% (1H24: 3.05%) และ Cost to income ratio จะต่ำกว่า High-40s% (1H24: 45.6%)
• Credit cost ในปี 2024 จะสูงกว่าเป้าหมายที่ 0.9-1.0% (1H24: 1.4%) หลังจากได้ตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่มความแข็งแกร่ง และรองรับหนี้เสียที่ปรับสูงขึ้น โดยมี NPL ratio เพิ่มเป็น 3.2% ใน 2Q24 สูงกว่าเป้าหมายที่ 3% แต่อยู่ในระดับควบคุมได้ ส่วนหนึ่งเพราะธนาคารเน้นการปรับโครงสร้างหนี้มากกว่าการขายหนี้เสีย และการตัดจำหน่ายหนี้สูญฯ จากข้อมูล 56-1 One Report 2023 ของ บมจ. พลังงานบริสุทธิ (EA) BBL ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินหลักที่ EA ติดต่อประจำ
ปรับเพิ่มสำรองหนี้ฯ ส่งผลกำไรสุทธิเติบโตลดลง
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลง 3-4% ในปี 2024-25 สะท้อนความเข้มงวดมากขึ้นในการตั้งสำรองหนี้ฯ หลังจากคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลง และความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเปาะบาง โดยเราปรับสมมติฐาน Credit cost เพิ่มขึ้น 10 bps เป็น 110/100 bps ในปี 2024-25 และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโตที่ 6.5%/6.7% ในปี 2024-25 (2023: +42.1%) ขณะที่ ROE เพิ่มขึ้นเป็น 8.2% ในปี 2024-25 (2023: 8.1%)
คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานที่เหลือ 171 บาท
คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงที่ 171 บาท จาก 187 บาท สะท้อนการปรับลดความสามารถการทำกำไรลง โดยประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 8.2%, Terminal growth 2%) อิง 0.58x PBV’24E หรือ -0.75SD ของค่าเฉลีย 10 ปี