BBIK (BUY : Fair Price : Bt 46.00) : คาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ กลับมามี Upside อีกครั้ง

Published
Share this article:

**เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” หลังจากราคา ณ ปัจจุบัน มี upside อีกครั้งเราคาดว่า BBIK ทำกำไรงวด 4Q24 ที่ 106 ล้านบาท (+31%YoY, +20%QoQ) ปรับตัวขึ้นตามปัจจัยทางฤดูกาลกำไรของ 2H มากกว่า 1H จากทั้งการประหยัดต่อขนาดและสัดส่วนการรับรู้กำไรในหน่วยธุรกิจที่มีกำไรดีกว่า ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ทรงตัว เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในปี 2025 เนื่องจาก 1)การเร่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ภาครัฐ 2) การทำโปรเจ็ค Virtual Bank 3)การซื้อ Innoviz เพิ่มเติม ไตรมาสถัดไปคาดว่า กำไรอ่อนตัวลงเทียบไตรมาสก่อนเนื่องจาก 1H เป็นช่วงเข้าประมูลงาน ณ ราคาปัจจุบันเทียบเท่ากับ 15xPE’26E หรือคิดเป็นที่ PEG 0.8 เท่า เทียบกับการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ (CAGR 18%) **

คาดกำไร 4Q24 ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง

• กำไรสุทธิที่ 106 ล้านบาท (+31%YoY, +20%QoQ) ปรับตัวขึ้นจากเข้าฤดูกาลส่งมองงานใน 2H24 ตามที่ตัว Backlog ที่ทำจุดสูงสุดในงวด 2Q24 ที่ 1.4 พันล้านบาท และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นตามการประหยัดต่อขนาด รวมทั้งการส่งมอบงาน Secondment ทรงตัว (อัตรากำไรต่ำกว่าค่าเฉลี่ย)

• สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้ คิดเป็น 26.3% (+140 bps YoY, -130 bps QoQ) หรือ 107 ล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสก่อน แต่เนื่องจากสัดส่วนต้นทุนของค่าจ้างพนักงานคิดเป็น 80% ของต้นทุนทั้งหมด เมื่อรายได้ปรับตัวขึ้น ส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด แต่ปรับตัวขึ้นเทียบปีก่อนเนื่องจากมีการขยายอาคารสำนักงานเพื่อรับรองพนักงานใหม่

• ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ที่ 22 ล้านบาท (-6%YoY, -5%QoQ) ใกล้เคียงไตรมาสก่อน รับรู้รายได้ตามโปรเจ็คในแต่ละช่วง
กำไรปี 25 เติบโตโดดเด่น ระยะยาวเติบโต Trend Digital Transformation

• เราปรับประมาณการกำไรในปี 24/25 ขึ้น +3%/+1% เป็น 305 ล้านบาท (+10%YoY) และ 379 ล้านบาท (+24%) ตามลำดับ เนื่องจาก 1.อัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าคาดเล็กน้อย 2.การรับรู้รายได้มากกว่าคาดเล็กน้อย โดยการเติบโตในปี 2025 มาจาก 1)การเร่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ภาครัฐ 2)การทำโปรเจ็ค Virtual Bank ที่ประกาศรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตภายในงวด
2Q25 3) การซื้อสัดส่วน Innoviz เป็น 100% (เดิม 85% ในปี 2024)

• แนวโน้มไตรมาสถัดไป คาดว่ากำไรชะลอตัวลงเทียบไตรมาสก่อน เข้าสู่ฤดูกาลเติม Backlog ใน 1H25 (ปัจจัยฤดูกาล)

• เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาว เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ใน Digital Transformation Trend ยังคงเติบโตต่อเนื่อง Mordor intelligence คาดไทยเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 8% จนถึงปี 2029 และ BBIK มีความสามารถในการแข่งขันที่จะช่วยหนุนการเติบโต จากประวัติการทำงานและความชำนาญที่มากขึ้นในอุตสาหกรรม อีกทั้งการเติบโตแบบ inorganic ซึ่งคล้ายกับเติบโตของบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ต่างประเทศ

ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" หลังราคาเป้าหมายเรามี upside อีกครั้ง

มีมูลค่าพื้นฐาน 46.00 บาทต่อหุ้น คำนวณด้วย วิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC: 11.9%, TG: 5% เทียบเท่ากับ 15xPE’26E หรือคิดเป็นที่ PEG 0.8 เท่า เมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ (CAGR 18%)

Sensitivity analysis

รายได้ปี 2025 เติบโต 17% -> ราคาเป้าหมาย 46 บาท (สมมุติฐานเรา)

รายได้ปี 2025 เติบโต 25% -> ราคาเป้าหมาย 48.5 บาท

รายได้ปี 2025 เติบโต 30% -> ราคาเป้าหมาย 51 บาท