HMPRO (BUY : Fair Price : Bt 13.90) : คาดกำไร 2Q24 ยังทรงตัว YoY

Published
15 July 2024
Share this article:

ท่ามกลางกำลังของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ประกอบกับงานก่อสร้างและการโอนโครงการอสังหาที่ลดลง ทำให้เราคาดว่าการจับจ่อยใช้สอยในส่วนของสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านจะชะลอตาม เราประเมินการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 2Q24 จะติดลบ 7.0% YoY (HomePro ที่ -7.0%, Mega Home ที่ -1.0%, และ HomePro Malaysia ที่ -10.0%) คาดรายงานกำไรสุทธิงวด 2Q24 ที่ 1.6 พันล้านบาท (-1%YoY, -6%QoQ) แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จะช่วงหนุนการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2H24 เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท

คาดกำไร 2Q24 ทรงตัว YoY

• คาดรายได้ 2Q24 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท (-1%YoY, -1%QoQ) ผลจากยอดขายกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านที่คาดว่าจะลดลง YoY ที่ 1.75 หมื่นล้านบาท (-1%YoY) ผลจากยอดขายสาขาใหม่ไม่สามารถชดเชยการลดลงของยอดขายสาขาเดิม และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ 465 ล้านบาท (+2%YoY) ผลจากการรับรู้รายได้พื้นที่เช่าจากสาขาใหม่ๆ

• การขยายสาขาช่วง 2Q24 : มีการเปิด HomePro สาขาลำพูน บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง และ Mega Home สาขาอุดรธานี ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/24 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 130 แห่ง (+7%YoY) แบ่งเป็น Home Pro 90 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 28 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา และ HomePro Vietnam ที่หลัก ๆ ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าภายตลาดออนไลน์

• ประเมินอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 27.2% ใน 2Q24 เพิ่มขึ้นจาก 27.1% ใน 2Q23 และ 27.0% ใน 1Q24 เนื่องจากคาดว่า GPM ของผลิตภัณฑ์จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ที่ 26.4% ใน 2Q24 ผลจาก GPM ของ Mega Home ที่เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนสินค้า Private label ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่า 21.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ทำได้ช่วง 1Q24 ทำให้สามารถชดเชยกับ GPM ของ HomePro ที่ทรงตัว YoY เนื่องจากมีสัดส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการขายสินค้า Private label ที่ลดลง QoQ

• คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 19.1% ใน 2Q24 จาก 19.0% ใน 2Q23 และ 18.1% ใน 1Q24 ผลจากยอดขายสาขาเดิมที่ลดลงแม้ว่าอัตราค่าไฟจะลดลง

**คาดหวังการฟื้นตัวในช่วง 2H24 **

การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HomePro ยังคงติดลบราว 9% ในเดือน มิ.ย. 2024 มากขึ้นจาก -5% ในเดือน พ.ค. 2024 ขณะที่ Mega Home พลิกติดลบ 4% ในเดือน มิ.ย. 2024 จาก +1% ในเดือน พ.ค. 2024 ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงเนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ที่ลดลงมาจากกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน ขณะที่กลุ่มอื่นๆ เช่นกลุ่มสินค้าซ่อมแซมลดลงเพียงเล็กน้อย รวมถึงการลดลงส่วนใหญ่มาจากโซนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ กทม.ที่มีผลกระทบจากงานก่อสร้างถนนใกล้สาขาราชพฤกษ์ และการย้ายสาขาบางบัวทองไปสาขารัตนาธิเบศร์ เราเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาและการเบิกจ่ายงบประมาณจะหนุนให้ SSSG ทยอยปรับตัวดีขึ้นใน 2H24

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าหุ้นไม่แพง

มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 3% เทียบเท่า 26xPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย