CK (BUY : Fair Price : Bt 27.40) : Backlog ทะลุ 2 แสนล้านหลังได้สีส้ม

Published
26 July 2024
Share this article:

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดยมองว่าปัจจุบัน CK อยู่ในช่วงขาขึ้นของรายได้ทีมีโอกาสเห็นการเติบโตและยืนในระดับสูงได้อีก 3-4 ปี หลังจากเซ็นสัญญางานรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้ามา และทำให้มี Backlog สูงถึงระดับ 2 แสนล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลาย 3Q24 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับงานจาก BEM เพิ่มอีกอย่างเช่นโครงการ Double Deck ด้วย ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการช่วง 2Q24 เราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวจาก 1Q24 ได้อย่างมาก จากการรับรู้เงินปันผลของ TTW และส่วนแบ่งจาก CKP ที่รับรู้เป็นกำไรเข้ามา โดยเราคาดกำไรสุทธิที่ 495 ล้านบาท (+2%YoY,+309%QoQ)

คาด 2Q24 กำไรสุทธิ 495 ล้านบาท (+2%YoY,+309%QoQ)

• เราคาดว่า CK มีกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 495 ล้านบาท(+2%YoY, +309%QoQ) เทียบกับปีก่อนทรงตัว ส่วนเทียบกับ 1Q24 ดีขึ้นจากการรับรู้เงินปันผลจาก TTW และส่วนแบ่งกำไรจาก เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นหลังคาดว่า CKP พลิกมามีกำไรสุทธิ

• รายได้คาดที่ 9,441 ล้านบาท ทรงตัวทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้หลักมาจากโครงการหลวงพระบาง รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ

• กำไรขั้นต้นคาดที่ 7.6% ทรงตัวจาก 1Q24 และดีขึ้นเล็กน้อยจาก 7.4% ใน 2Q23 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 533 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ 1Q24 แต่เพิ่มขึ้น 14%YoY

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดที่ 359 ล้านบาท (+41%YoY, +117%QoQ) สาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งของ CKP ที่รับรู้เป็นกำไรหลังจากรับรู้ขาดทุนประมาณ 121 ล้านบาทในช่วง 1Q24 และการปรับโครงสร้างในโครงการหลวงพระบางที่ทำให้ส่วนแบ่งขาดทุนลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งจาก BEM ยังคงเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการ โดยไตรมาสนี้มีเงินปันผลจาก TTW เข้ามาจำนวน 232 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่ 1Q24 ไม่มี

• รวมแล้วในช่วง 1H24 เราคาดว่า CK จะมีกำไรสุทธิ 616 ล้านบาท (-12%YoY)

สีส้มมาแล้ว Double Deck รออยู่

Backlog ณ ปัจจุบันคาดว่าจะสูงถึง 2.2 แสนล้านบาท หลังจากเซ็นสัญญางานรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกที่มีมูลค่ารวมกว่า 1.1 แสนล้านบาทเข้ามา ซึ่งคาดว่าสายสีจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลาย 3Q24 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีโอกาสรับงาน Double Deck ที่มีมูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาทจาก BEM อีกโครงการด้วย แสดงให้เห็นว่า ณ ปัจจุบัน CK ไม่จำเป็นต้องหางานโครงการอื่นพิ่มเข้ามาแต่อย่างใด เพราะ Backlog ณ ปัจจุบันเพียงพอสำหรับรายได้ที่คาดว่าจะยืนในระดับ 30,000-40,000 ล้านบาท ได้อีก 3-4 ปีแล้ว

**แนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยบวกเรื่อง Backlog ที่อยู่ในระดับสูง **

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 27.4 บาท (1.7XPBV’24E) มีปัจจัยบวกจากการมี Backlog ที่อยู่ในระดับสูงทำให้ไม่มีความเสี่ยงด้านรายได้ไปอีก 3-4 ปี รวมถึงผลดีจากแนวโน้มผลประกอบการงวด 2Q24 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 1Q24