AH (BUY : Fair Price : Bt 25.60) : ปรับกำไรทั้งปีลง หลัง 2Q24 กำไรทรุด

Published
28 August 2024
Share this article:

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 25.6 บาท(6.3XPER’24E) เพราะมองว่าในระยะยาวจากการที่ไทยยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ทั้งในกลุ่ม ICE และ EV จะทำให้ AH ที่มีผลิตภัณฑ์ที่รองรับกับรถยนต์ได้ทั้ง 2 ประเภทจะได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มได้ ซึ่งล่าสุดทาง AH มีการแจ้งว่าจะได้รับคำสั่งซื้อมูลค่าสูงเข้ามาเพิ่มในปี 26 เป็นต้นไป สำหรับผลประกอบการงวด 2Q24 มีกำไรสุทธิเหลือ 103 ล้านบาท (-75%YoY,-68%QoQ) ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมและการปรับสินค้าคงเหลือของบริษัทที่โปรตุเกสทำให้มีกำไรขั้นต้นลดลง และจากกำไรที่ชะลอตัวทำให้เราปรับกำไรทั้งปีลง 32% เหลือ 1,027 ล้านบาท (-36%YoY)

2Q24 กำไรสุทธิ 103 ล้านบาท (-75%YoY,-68%QoQ)

• AH มีกำไรสุทธิงวด 2Q24 ที่ 103 ล้านบาท (-75%YoY,-68%QoQ) โดยมีรายการพิเศษเป็นกำไรประมาณ 3 ล้านบาท ถ้าไม่รวมจะมีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท (-67%YoY,-67%QoQ) ลดลงแรงตามอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว

• รายได้ที่ 6,436 ลบ. (-10%YoY,-14%QoQ) ลดลงน้อยกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ยอดผลิตลดลง 16%YoY,16%QoQ เพราะมีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาช่วย โดยโปรตุเกสเพิ่มขึ้น 13%YoY และมาเลเซีย +26%YoY ส่วนจีนเพิ่มขึ้น 4%QoQ

• อัตรากำไรขั้นต้นที่ 8.6% ลดลงจาก 10.8% ใน 2Q23 และ 9.5% ใน 1Q24 เพราะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 31.5% จาก 27.8% ใน 2Q23 และ 31.3% ใน 1Q24 และมีการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือของบริษัทในโปรตุเกสเข้ามาประมาณ 100 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 456 ลบ. ทรงตัวจาก 1Q24 แต่ +6%YoY เพราะมีบริษัทย่อยอย่าง AVEE เพิ่มเข้ามา

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ 50 ล้านบาท (+57%YoY,+12%QoQ) หลังบริษัทร่วมอย่าง พูแรม อาปิโก เริ่มมีกำไรแล้ว

• ดอกเบี้ยจ่ายที่ 110 ล้านบาท ทรงตัวจากทั้งปีก่อนและไตรมาส 1

**2H24 ค่อยๆฟื้น แต่จะดีชัดเจน 2H25 **

ภาพรวมช่วง 2H24 AH คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น ทั้งจากการที่ไม่มีช่วงที่มีวันหยุดมากเหมือน 2Q24 และการเปิดโรงงานใหม่ของผู้ประกอบการจากจีน อย่างไรก็ตามจะให้กลับสู่ระดับปกติคงเป็นช่วง 2H25 เป็นต้นไปหลังการแข่งขันด้านราคาจากรถ EV ของจีนหมดไป อย่างไรก็ตามในแง่คำสั่งซื้อใหม่ทาง AH แจ้งว่าจะมีคำสั่งซื้อมูลค่าสูงเข้ามาในปี 26 เป็นต้นไป (เบื้องต้นเราคาดว่าจะเป็นในกลุ่มรถกระบะ EV)

สำหรับการรับมือกับตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวในปี 24 ทาง AH มีการควบคุมต้นทุนมากขึ้นอย่างเช่นการลดสินค้าคงเหลือในโปรตุเกส หรือการปรับเปลี่ยนการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จาก Ford เป็น Mitsubishi หรือการเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่าย Chang An เป็นต้น

**ปรับกำไรลงอีกครั้ง แต่ยังแนะนำ “ซื้อ” **

กำไรสุทธิในช่วง 1H24 ที่ 422 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนเพียง 28% ของกำไรทั้งปีเดิมที่เราคาดไว้ แม้ว่าเราจะมองว่า 2H24 จะเห็นการฟื้นตัว แต่คาดว่าระดับที่เคยคาดไว้จะสูงไปเราจึงปรับกำไรทั้งปีลง 32% เหลือ 1,027 ล้านบาท โดยปรับกำไรขั้นต้นลงเหลือ 9.7% จาก 10.2% แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 25.6 บาท (6.3XPER’25E) เพราะมองว่าระยะยาวจากการที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ทั้ง ICE และ EV ซึ่ง AH มีความพร้อมรับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาได้